ผู้มาเยือนจากต่างดาวจากมนุษย์ต่างดาวในหมู่มนุษย์

ในวันที่5มิถุนายน ค.ศ2013หนังสือพมพ์ประจำวันอังกฤษในThe Guardians เปิดเผยว่าเอกสารจากสำนักงานความมั่นคงแห่งสหรัฐรั่วไหลออกมาท่ามกลางพวกนั้นเป็นคำสั่งจากศาลตรวจข่าวกรองต่างประเทศต้องการที่จะให้Verizonส่งข้อมูลจากโทรศัพท์ของชาวอเมริกันหลายล้านคนมายังFBIและNSA 4วันต่อมา Edward Snowden อดีตผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบบอร์

สำนักข่าวกรองกลางได้เข้ามารายงานตัวเพราะว่าเป็นต้นตอของการรั่วไหล เมื่อขอให้อธิบายการกระทำของเขาสโนว์เดนกล่าวว่าผมสามารถเข้าถึงอีเมล รหัสผ่านบันทึกโทรศัพท์ บัตรเครดิตผมไม่อยากจะอยู่ในโลกที่ทุกอย่างที่ผมทำและพูดถูกบันทึกNSA คือ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติหรือ สำนักงานสายลับแห่งชาติ ซึ่งควบคุมจอระบบสื่อสารทั่วโลกทุกรูปแบบการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์

เพื่อจุดประสงค์ของความมั่นคงของชาติเพื่อระบุ และต้องต่อต้านการคุกคามต่อเมริกาเอกสารชิ้นหนึ่งที่ Edward Snowdenได้ปล่อยเกี่ยวกับโครงการชื่อมิสติค ซึ่งสามารถบันทึกการฟังทุกการสนทนา ทั่วประเทศ ทั่วโลกเทคโนโลยีน่าสนใจมากเพราะว่ามันทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นในหลายๆทางมีผู้ที่เชื่อว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราทำเองทั้งหมดแต่เราถูกชี้นำโดยผู้มาเยือนที่มายังโลกครั้งแรกเมื่อหลายพันปีก่อนนักทฤษฏีพระเจ้าอวกาศยืนกรานว่าใช่

โดยมนุษย์ต่างดาวตั้งใจว่าเราจะเข้าสู่การเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีและเรากำลังถูกมอง ไม่เพียงโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลแต่โดยจากมสิ่งนอกโลกของเรา พวกเขายังอ้างอีกว่าได้เตรียมพวกเราไว้ในแนวทางนี่ตั้งแต่โบราณแล้วและเราสามารถพบหลักฐานของการคงอยู่ของพวกเขาในเรื่องราวของกลุ่มมนุษย์ต่างดาวโบราณที่รู้จักกันในนาม “ผู้พิทักษ์”  ในบทที่4ของพระคัมภีร์ภาษาฮิบรูผู้พทักษ์ถูกอธิบายว่าเป็นกลุ่มของพระเจ้าที่ดูแลซึ่งต่อมาเชื่อมโยงกับเทวดาผู้พิทักษ์เป็นผู้ส่งสารที่จำเป็นและนี่คือเหตุผลที่นักวิชาการหลายคนเข้าใจ

ผู้พิทักษ์เป็นระดับชั้นของเทวดา เทวดาถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ส่งสารในพระคัมภีร์พวกเขามีทักษ์ในการจัดการโลก เฝ้ามนุษย์และบ้างก็พูดได้ว่าผู้พิทักษ์ที่ดีพวดเขาทำงานของพวกเขาตามหน้าที่แล้วก็มีบางพวกที่ว่ากันว่า เป็นผู้พิทักษ์ที่เลวมันพูดถึงผู้พิทักษ์ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนโลกที่ไม่ได้กระทำโดยมือของพวกเขา

และสร้างโดยตัวแทนของพวกเขาพวกเขาคือใคร พวกเขาคืออะไรพระคัมภีร์ไม่ได้เข้าไปในรายละเอียดมากแต่มีบันทึกอื่นอีกมากที่สอนเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกบันทึกในพระคัมภีร์และมีชื่อเสียงอันหนึ่ง นั่นคือพระคัมภีร์ “ENOCH”พระคัมภีร์ “ENOCH”บรรจุการพบเห็นและรับรู้ด้วยตนเองของคุณตาทวดของโนอาห์

 

สนับสนุนโดย  rb88

การสำรวจภากิจของโรเวอร์

มาร์ส คิวริออสซิตี ราคา 2,500ล้านเหรียญ เป็นโรเวอร์ที่ทันสมัยที่สุดที่เคยสำรวจสภาพดาวอังคารนอกจากเก็บภาพถ่ายความคมชัดสูงและตัวอย่างอากาศกับลมขณะที่มันเดินทางข้ามผิวดาวแล้วมันยังสามารถหมุนกล้องได้เองด้วยความสามารถที่ทำให้วิศวกรนาซ่าวินิจฉัยและแก้ปัญหาจากโลกได้น่าแปลกที่ใน50วันสุริยะที่ทำภารกิจโรเวอร์ส่งภาพลึกลับกลับมายังโลก

แสดงงสิ่งที่นักววิจัยบางคนเห็นเป็นเงารูปร่างคล้ายมนุษย์กำลังทำงานกับโรเวอร์เมื่อมองจากภาพเราจะเห็นคนตรงนั้นและถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้ใส่หมวกแต่ดูเหมือนว่าจะใส่อุปกรณ์และแว่นบางอย่างแล้วทำให้คนคาดเดาว่าสิ่งที่ทำอยู่บนดาวอังคารอาจมีมากกว่าที่นาซ่าและโครงการอวกาศของกองทัพบอกว่าเราทำได้นาซ่ารู้เรื่องดาวอังคารมากกว่าที่บอกเราเยอะพวกเขาปล่อยรูปพวกเขายอมปล่อยข่าว

พวกเขาไม่ได้พูดถึงมันโดยรวมแต่ว่าพวกแค่ยอมให้คนที่มีตาคนที่อยากเห็นดูของพวกนี้แล้วเข้าใจว่ามันคืออะไรแต่พวกเขาไม่พูดอะไรเพราะว่าพวกเขาถูกผูกมัดด้วยความจริงทางการเมืองนั่นเอง จอร์ช นูรี นักทอล์ค โชว์ทางวิทยุชื่อดังวัย 68ปี ได้กล่าวว่าเราได้รับโทรศัพท์จากคนชื่อแจ็คกี้ ซึ่งอ้างว่าเธอเป็นอดีตพนังงานของนาซ่าเธอเล่าเรื่องใหญ่ว่ายานโรเวอร์ของเราส่งภาพที่นาซ่าได้อุบเอาไว้ภาพมนุษย์กำลังเดินไปเดินมาบนดาวอังคารและเธอน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากเธอดูจะรู้ดีว่าเรื่องที่เธอพูดกำลังพูกถึงอะไรอยู่มีทฤษฏีเสมอว่ามีโครงการอวกาศซ้อนโครงการอวกาศที่เรารู้มันเป็นโครงการลับมันเป็นโครงการที่เงินหลายล้านล้านเหรียญได้หายไปเฉยๆ

และไม่มีใครรู้ว่าเงินหายไปไหนไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภาพถ่ายจำนวนมากได้รับการพิสูจน์และเฉลยแล้วว่าไม่ใช่หลักฐานของอารยธรรมจากต่างดาวบนดาวอังคารนั่นรวมไปถึงใบหน้าบนดาวอังคารด้วยซึ่งแท้จริงแล้วที่เราเห็นเป็นใบหน้านั้นเกิดจากแสงและเงาที่ตกกระทบกันนั่นเองและถึงแม้ว่าหลายภาพได้ถูกพิสูจน์แล้วแต่ก็ไม่สามารถไขปริศนาของภาพได้ทั้งหมด

ได้แฮกเกอร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อแกรี่แมคคินนอนแฮ็กฐานข้อมูลของนาซ่าและพบไฟล์ที่มีรายชื่อของสิ่งที่เรียกว่าเจ้าหน้าที่นอกโลกเจ้าหน้าที่ในกองทักที่อาศัยและทำงานอยู่นอกดาวโลกของเราซึ่งนอกโลกไม่ได้หมายถึงดาวอังคารเสมอไปแต่ว่ามันหมายถึงในอวกาศและมันบ่งชี้ว่ามีโครงการอวกาศลับสุดยอดบางอย่างที่ประชาชนไม่เคยรับรู้อาจมีปฏิบัติการลับของทหารสหรัฐบนดาวอังคารจริงหรือไม่ถ้ามีมันเกิดขึ้นนานแค่ไหนแล้ว

นักวิจัยบางคนบอกว่าแผนกลยุทธ์เพื่อไปดาวอังคารเกิดขึ้นก่อนเราไปถึงดวงจันทร์ซะอีกและโดยนักวิทยาศาสตร์คนเดียวกนที่ทำให้เราไปถึงที่นั่นเขาชื่อเวิร์นเนอร์ วอน บราวน์ เวิร์นเนอร์ วอน บราวน์เป็นอัจฉริยะเรื่องจรวดและเขาหลงไหลการไปดาวอังคารเขาหลงไหลศาสตร์ของจรวดและเขาเขียนหนังสือในปี1948 ที่ชื่อมาร์สโปรเจค

บนดาวอังคารมีโครงสร้างคล้ายทรงพีระมิดจริงหรือไม่?

554 วันสุริยะ หลังยานมาร์ส คิวริออสซิตี โรเวอร์ลงพื้นมันได้ส่งภาพพาโนรามาความคมชัดสูงใหม่ล่าสุดของภูมิประเทศดาวอังคารมาที่โลกเมื่อตรวจสอบ นักธรณีวิทยาสมัครเล่นประกาศการค้นพบน่าตะลึง สิ่งที่ดูเหมือนรูปปั้นที่ดูคล้ายมนุษย์การค้นพบนี้

เป็นแค่หนึ่งในวัตถุคล้ายโลกนับสิบที่พบในภาพจากโรลเวอร์รวมถึงโรงศพหิน พระพุทธรูปและแม้กระทั่งไม้กางเขนมีวัตถุต่างๆมากมายบนดาวอังคารที่คนเห็นหรือคิดว่าเห็นในภาพโรเวอร์หลายภาพและมันองข้ามได้ยากเพราะว่ามันดูเหมือนกับประติมากรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นทุกอย่างแล้วต่อให้หลังจากเกิดมหาภัยพิบัติอย่างที่เห็นได้บนดาวอังคารก็จะพบเศษซากจากอารยธรรมที่สูญหายที่ได้ทิ้งร่องรอยสุดท้ายเอาไว้ว่าเราอยู่ที่นี่นักทฤษฏีมนุษย์อวกาศโบราณคิดว่าอาจมีวัตถุและโครงสร้างผิดธรรมชาติอื่นบนดาวอังคาร

ตั้งแต่ภาพแรกถูกส่งกลับมาจากภารกิจมาร์สไวกิ้งในปี1979 เจ้าหน้าที่นาซ่ายังได้อ้างว่าในความคล้ายคลึงของกองหินบนดาวอังคารกับวัตถุฝีมือของมนุษย์เกิดจากแพไรโดเลียเมื่อจิตใจเห็นรูปแบบที่คุ้นเคย เหมือนการเห็นรูปทรงในเมฆ แพไรโดเลีย เป็นปรากฏการณ์ทางจิตใจชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้สิ่งที่ตามองเห็นหรือได้ฟังเช่นภาพหรือเสียงที่ไม่ชัดเจน

และไม่มีรูปแบบที่แน่นอนแล้วตีความว่าเป็นสิ่งที่เคยเห็นหรือคุ้นเคยแต่ผู้เชี่ยวชาญถ่ายภาพบางคนไม่แน่ใจว่ามันเป็นแค่ตาฝาดจากภาพนี้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่านี่อาจเป็นรูปปั้นที่เสียหายถูกฝังถึงคางและอาจจะมีอีกมากที่ฝังอยู่ใต้ทรายเห็นได้ชัดเจอว่า มันเป็นสิ่งที่เราน่าจะเจอในแถบอเมริกากลางหรือว่าใต้อาจมีซากอารยธรรมที่สูญหายกระจายอยู่ทั่วภูมิประเทศดาวอังคารหรือไม่ ซากที่เหมือนกับสิ่งที่มีอยู่บนดาวเคราะห์ของเราเองนักทฤษฏีมนุษย์อวกาศโบราณบอกว่า ใช่

และเสนอว่านี่เป็นหนึ่งในวัตถุมากมายบนดาวอังคารที่ดูเหมือนมีคู่เหมือนบนโลกของเราโครงสร้างบางอย่างบนดาวอังคารอาจเกี่ยวข้องเต็มที่กับโครงสร้างบนโลกนี้บนดาวอังคารมีโครงสร้างคล้ายพีระมิดมีหินตั้งและหินแบบสโตนเฮนจ์บนดาวอังคารและยังมีโครงสร้างบนดาวอังคารที่ดูเหมือนกับสฟิงซ์อีกด้วยแถวไซโดเนียมีวัตถุมากมาย รวมถึงพื้นที่ที่เรียกว่าเมืองเป็นที่ที่พยใบหน้าบนดาวอังคารและมีพีระมิด5เหลี่ยมขนาดใหญ่มีกระจุกวัตถุแบบพีระมิดอยู่ใกล้กันด้วยและที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับเมืองก็คือมีบางคนชี้ว่า

ถ้าเรานำยอดพีระมิดทั้งหมดที่นั่นมาพวกมันจะตรงกับผังของดาวลูกไก่นี่เป็นบางอย่างที่เราเห็นบนโลกเราเห็นโบราณสถานมากมายที่วางผังให้สะท้อนถึงกลุ่มดวาลูกไก่เช่นเดียวกันมันจะเป็นไปได้ไหมว่า โครงสร้างบนดาวอังคารนั้นเป็นของจริงแล้วก็มาจากการทำเทียมนั่นเป็นบางอย่างที่ศาสตร์ทั้งหมดบอกเอาไว้ว่ามีอารยธรรมไหนที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาและมันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบางคนแนะว่า พวกเขาอาจจะหนีจากดาวอังคารแล้วก็มาที่โลกของเราเพื่อความอยู่รอด

มนุษย์จะมีร่างกายอย่างไรเมื่ออยู่บนดาวอังคาร

เบนเนอร์ได้ข้อสรุปนี้ เมื่อเขาพูดว่าธาตุเฉพาะอย่างที่เชื่อกันว่าสำคัญต่อต้นกำเนิดชีวิตมีอยู่บนโลกและมีอยู่บนพื้นผิวดาวเคราะห์แดงเท่านั้นอังคารน่าจะเป็นที่ที่ดีกว่าโลกการพัฒนาสิ่งมีชีวิตตอนนี้เบนเนอร์ชี้ว่าธาตุบางอย่างที่สำคัญต่อการทำงานอย่างเหมาะสมเคมีอินทรีย์เช่นโบรอน โมลิบดีนัมอยู่บนดาวอังคารมากกว่าโลกเราอาจนึกภาพได้ว่า ชีวิตบนโลกเริ่มบนดาวอังคารคืออีกหนึ่งแง่มุม

เราเป็นชาวดาวอังคารหรือทายาทของดาวอังคารนั่นเองชีวิตบนโลกกำเนิดจากดาวอังคารเราอาจเป็นดาวอังคารจริงหรือไม่นักทฤษฏีมนุษย์อวกาศโบราณบอกว่า ใช่และบอกว่าต้อกำเนิดของโลกนี้อาจเป็นผลงานโดยตรงของสิ่งมีชีวิตคล้ายมนุษย์ที่อยู่บนดาวเคราะห์แดงจากการสำรวจของนักบินอวกาศที่อาศัยในสถานีอวกาศนานาชาตินักวิทยาศาสตร์ได้คาดเดาถึงความเปลี่ยนแปลงด้านสรีระที่อาจพบในมนุษย์รุ่นหน้า ที่เกิดบนดาวอังคารเรื่องที่หน้าทึ่งที่สุดเกี่ยวกับร่างกายมนุษย์คือความสามารถในการปรับตัวและถ้าดูนักบินอวกาศที่ขึ้นไปในอวกาศพวกเขาสูงขึ้นประมาณ 2 หรือ 3 นิ้วและเมื่อมีมนุษย์ไปเกิดบนดาวอังคาร

สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือสภาพแวดล้อมจะเปลี่ยนโครงสร้างของร่างกายมนุษย์ สิ่งที่เห็นในไม่กี่รุ่นคือ มนุษย์ที่สูงขึ้น เพรียวขึ้นเพราะแรงโน้มถ่วงบนดาวอังคารน้อยกว่าโลกนั่นเอง ถ้ามนุษย์วิวัฒนาการนานพอบนดาวอังคารพวกเขาอาจจะสูงขึ้นแล้วก็มีหัวใหญ่ขึ้นมีแขนขารีบลงพวกเขาอาจจะมีตาใหญ่ขึ้นหน่อยเพื่อช่วยให้เห็นในความมืดได้ดีขึ้นเพราะว่ามีแสงแดดบนดาวอังคารน้อยกว่าบนโลกและเพราะมันอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากกว่าพวกเขาอาจจะลงเอยด้วยการดูคล้ายกับภาพของเทวดาและสิ่งมีชีวิตแบบเทพอื่นๆ

ที่เราอาจเจอในไบเบิลและเอกสารโบราณต่างๆลักษณะของคนจากดาววิเคราะห์ที่แรงโน้มถ่วงต่ำอย่างดาวอังคารหรือว่าอยู่ในอวกาศมานานพวกนี้อาจเป็นลักษณะที่เราเห็นจากเทวดาตกสวรรค์ที่ตัวสูงและผอมมากและอาจผิวขาวซีดตาโตชีววิตบนโลกมีต้นกำเนิดจากอังคารจริงหรือไม่และเป็นไปได้ไหมว่ามันไม่ใช่เรื่องบังเอิญแต่จงใจและถ้าใช่เกิดอะไรขึ้นกับชาวดาวอังคารบนพื้นที่25,000ไมล์ตามแถบเส้นศูนย์สูตรของดาวเคราะห์แดงคือรอยแผลใหญ่บนเปลืออกโลกเรียกว่า วาลเลส มารีนาริสมันลึกกว่า4ไมล์

ซึ่งคิดเป็นสี่เท่าของความลึกแกรนด์แคนยอนและมันทอดยาวเท่ากับพื้นที่สหรัฐอเมริกาจากนิวยอร์กถึงแคลิฟอร์เนีย วาลเลส มารีนาริส เป็นร่องใหญ่ที่สุดบนดาวอังคารมันได้ชื่อตามภารกิจมาริเนอร์ 1 ในปี1970มันมีลักษณะทางธรณีวิทยาที่น่าสนใจมากมันใหญ่โตดังนั้นมันท้าทายที่จะหาว่าอะไรสร้างหุบเขานี้ขึ้นมาคำถามก็คือ ทำไมลักษณะพวกนี้ถึงเกิดบนดาวอังคารและก็ขนาดใหญ่ขนาดนี้ได้