มนุษย์ยุคกำเนิดกับภาษา

เคยคิดกันหรือไม่ว่าทำไมเราถึงต้องมีการสื่อสารกันโดยใช้ภาษา แล้วภาษามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วทำไมทั่วโลกถึงไม่ใช่ภาษาพูดแบบเดียวกันทั้งหมด ทำถึงจะต้องมีหลากหลายภาษา ซึ่งในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจตามทฤษฎีที่มีการวิจัยและข้อสันนิฐานต่างๆตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

โดยจะเริ่มจากการย้อนไปตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของเราเลยก็ว่าได้ ในความเป็นจริงแล้วมีการะบุเอาไว้ว่า แต่เดิมนั้นบรรพบุรุษมนุษย์ของเราได้มีการสื่อสารทางภาษาเหมือนกันทั้งหมด

แต่เพราะมีความต้องการในการขยายเผ่าพันธุ์ นอกจากการขยายเผ่าพันธุ์โดยวิธีการสืบพันธุ์แล้ว ยังต้องการที่จะขยายอาณานิคมให้เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์ของตนเอง ซึ่งถือว่ามีความคิดที่ทำให้เห็นได้ชัดว่ามนุษย์นั้นเริ่มมีวิวัฒนาการในทางความคิดเพิ่มมากขึ้น เมื่อมนุษย์ได้เริ่มการขยายเผ่าพันธุ์ออกไปทั่วทุกพื้นที่ของโลก ทำให้มนุษย์ได้ทราบว่าในแต่ละพื้นที่นั้นมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ไม่เหมือนกับที่ที่เคยจากมา มีสิ่งที่แปลก สิ่งที่ไม่เคยเห็น เพราะฉะนั้นจึงเกิดเป็นศัพท์ใหม่ที่คิดค้นขึ้นมาเอง หากเปรียบเทียบก็อย่างเช่น สมมติว่าประเทศไทยเราไม่มีหิมะให้เห็น เพราะการไม่เห็นทำให้เราไม่รู้ว่ามันมีสิ่งนั้นอยู่บนโลกใบนี้ เมื่อเราเดินทางไปยังต่างแดน

เราเจอสิ่งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเป็นเกร็ดสีขาว เราจึงหาคำว่าแทนการเรียกของมันว่า สโนว์ (snow) เป็นเช่นนี้นั้นหมายถึงว่าได้เกิดรากศัพท์ใหม่ขึ้นมาหลากหลายคำ และเมื่อการบอกเล่าจากปากต่อปาก อาจจะทำให้ภาษามีการบิดเบือนไปตามพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำให้มีการออกเสียงที่แตกต่างกันออกไปเรื่อยๆ

จึงเป็นที่มาของข้อสันนิฐานนี้ว่าทำไมเราจึงมีภาษาที่แตกต่างกันออกไป หรือจะสังเกตได้จากสัตว์ในยุคปัจจุบัน ต่อให้เป็นสัตว์ชนิดเดียวกัน สายพันธุ์เดียวกัน

แต่ถ้าหากว่ามันถูกเลี้ยงอาศัยอยู่กันคนละพื้นที่ การสื่อสารและประสาทความรับรู้ของมันก็แตกต่างกันไปตามพื้นที่ที่มันอาศัยอยู่ แต่จะมีอีกภาษาหนึ่งที่จะสามารถสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน แม้ว่าเราจะมีการพูดโดยใช้ภาษาที่แตกต่างกัน นั้นก็คือ ภาษามือ ถือว่าเป็นภาษาที่ไม่ต้องพูด จะทำการสื่อสารโดยใช้สัญลักษณ์ต่างๆแทน ซึ่งในภาษามือนี้จะให้ความเข้าใจในความหมายของคำเดียวกันในทั้งหมดของทุกๆภาษา ผู้ที่ต้องเรียนรู้ภาษามือส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้พิการทางการได้ยิน และผู้พิการทางการพูดไม่ได้

แต่ในปัจจุบันคนทั่วไปก็เริ่มหันมาสนใจในการเรียนรู้ภาษามือมากขึ้น เพราะถ้าหากเข้าพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้ อย่างน้อยภาษามือที่สามารถแทนคำศัพท์ของภาษาทั่วโลกได้ก็จะสามารถทำให้สื่อสารกันได้เช่นเดียวกัน

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88

ผู้มาเยือนจากต่างดาวจากมนุษย์ต่างดาวในหมู่มนุษย์

ในวันที่5มิถุนายน ค.ศ2013หนังสือพมพ์ประจำวันอังกฤษในThe Guardians เปิดเผยว่าเอกสารจากสำนักงานความมั่นคงแห่งสหรัฐรั่วไหลออกมาท่ามกลางพวกนั้นเป็นคำสั่งจากศาลตรวจข่าวกรองต่างประเทศต้องการที่จะให้Verizonส่งข้อมูลจากโทรศัพท์ของชาวอเมริกันหลายล้านคนมายังFBIและNSA 4วันต่อมา Edward Snowden อดีตผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบบอร์

สำนักข่าวกรองกลางได้เข้ามารายงานตัวเพราะว่าเป็นต้นตอของการรั่วไหล เมื่อขอให้อธิบายการกระทำของเขาสโนว์เดนกล่าวว่าผมสามารถเข้าถึงอีเมล รหัสผ่านบันทึกโทรศัพท์ บัตรเครดิตผมไม่อยากจะอยู่ในโลกที่ทุกอย่างที่ผมทำและพูดถูกบันทึกNSA คือ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติหรือ สำนักงานสายลับแห่งชาติ ซึ่งควบคุมจอระบบสื่อสารทั่วโลกทุกรูปแบบการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์

เพื่อจุดประสงค์ของความมั่นคงของชาติเพื่อระบุ และต้องต่อต้านการคุกคามต่อเมริกาเอกสารชิ้นหนึ่งที่ Edward Snowdenได้ปล่อยเกี่ยวกับโครงการชื่อมิสติค ซึ่งสามารถบันทึกการฟังทุกการสนทนา ทั่วประเทศ ทั่วโลกเทคโนโลยีน่าสนใจมากเพราะว่ามันทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นในหลายๆทางมีผู้ที่เชื่อว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราทำเองทั้งหมดแต่เราถูกชี้นำโดยผู้มาเยือนที่มายังโลกครั้งแรกเมื่อหลายพันปีก่อนนักทฤษฏีพระเจ้าอวกาศยืนกรานว่าใช่

โดยมนุษย์ต่างดาวตั้งใจว่าเราจะเข้าสู่การเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีและเรากำลังถูกมอง ไม่เพียงโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลแต่โดยจากมสิ่งนอกโลกของเรา พวกเขายังอ้างอีกว่าได้เตรียมพวกเราไว้ในแนวทางนี่ตั้งแต่โบราณแล้วและเราสามารถพบหลักฐานของการคงอยู่ของพวกเขาในเรื่องราวของกลุ่มมนุษย์ต่างดาวโบราณที่รู้จักกันในนาม “ผู้พิทักษ์”  ในบทที่4ของพระคัมภีร์ภาษาฮิบรูผู้พทักษ์ถูกอธิบายว่าเป็นกลุ่มของพระเจ้าที่ดูแลซึ่งต่อมาเชื่อมโยงกับเทวดาผู้พิทักษ์เป็นผู้ส่งสารที่จำเป็นและนี่คือเหตุผลที่นักวิชาการหลายคนเข้าใจ

ผู้พิทักษ์เป็นระดับชั้นของเทวดา เทวดาถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ส่งสารในพระคัมภีร์พวกเขามีทักษ์ในการจัดการโลก เฝ้ามนุษย์และบ้างก็พูดได้ว่าผู้พิทักษ์ที่ดีพวดเขาทำงานของพวกเขาตามหน้าที่แล้วก็มีบางพวกที่ว่ากันว่า เป็นผู้พิทักษ์ที่เลวมันพูดถึงผู้พิทักษ์ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนโลกที่ไม่ได้กระทำโดยมือของพวกเขา

และสร้างโดยตัวแทนของพวกเขาพวกเขาคือใคร พวกเขาคืออะไรพระคัมภีร์ไม่ได้เข้าไปในรายละเอียดมากแต่มีบันทึกอื่นอีกมากที่สอนเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกบันทึกในพระคัมภีร์และมีชื่อเสียงอันหนึ่ง นั่นคือพระคัมภีร์ “ENOCH”พระคัมภีร์ “ENOCH”บรรจุการพบเห็นและรับรู้ด้วยตนเองของคุณตาทวดของโนอาห์

 

สนับสนุนโดย  rb88