จะเป็นอย่างไรหากดำน้ำลงไปใต้ทะเลที่มีระดับความลึกมาก

หลายคนก็คงอยากจะรู้เหมือนกันใช่หรือไม่ว่าที่ใต้ท้องทะเลนั้นมันจะมีสัตว์ที่แปลกประหลาดอะไรบ้างที่อยู่ในระดับน้ำทะเลที่มีความลึกขนาดนั้นและมันจะมีอะไรบ้างที่อยู่ใต้ท้องทะเลในระดับน้ำที่มีความลึกขนาดนี้วันนี้เราจะพาคุณมาพบกับระดับน้ำที่มีความลึกและมันจะมีอะไรบ้างมาชมกัน

ในระดับน้ำท้องทะเลที่มีความลึกประมาณ3,800เมตรที่มีความลึกลงไปจากบนผิวน้ำทะเลคุณก็จะพบกับซากเรือของเรือไททานิคจากนั้นหากลองดำน้ำลงไปที่มันได้มีระดับน้ำความลึกประมาณ4,000เมตร

จากนั้นคุณก็จะได้เข้าสู่เขตก้นมหาสมุทรหรือที่เรียกได้ว่าคือThe Abyssal Zone ซึ่งถ้าหากว่าได้ลงดำน้ำไปอยู่ที่ระดับน้ำที่มันได้มีความลึกขนาดนี้มันจะมีค่าของแรงดันน้ำอยู่ที่ประมาณ11,000ปอนด์ต่อตารางนิ้วและอย่างไรก็ตาม ในใต้ท้องทะเลแห่งนี้มันก็ยังได้มีสัตว์ที่ดูแปลกประหลาดอีกมากมายที่เรานั้น

ไม่เคยเห็นหรือไม่ค่อนมีให้เห็นที่ไหนมาก่อนยกตัวอย่างเช่นปลาที่แปลกประหลาดที่เรานั้นไม่เคยเห็น เช่นปลาแฟรงทูด ปลาตกเบ็ด ปลาไวเปอร์

ซึ่งมันได้เป็นปลาที่หาดูได้ยากมากเพราะมันจะอยู่ที่ระดับน้ำที่มีความลึกอย่างเดียวเท่านั้น นอกจากนี้ลองดำน้ำลึกลงไปอีกประมาณ4,267เมตร และในระดับน้ำขนาดนี้มันเป็นความลึกของใต้น้ำของมหาสมุทรที่คนส่วนใหญ่แล้วมักจะคิดเอาเองว่ามันน่าจะมาถึงที่ก้นของมหาสมุทรกันแล้วแต่ถึงอย่างไรก็ตามอย่าพึ่งหยุดคิดเพราะว่ามันยังมีส่วนที่มีระดับความลึกลงไปข้างใต้มหาสมุทรอีกซึ่งได้เป็นระดับความลึกประมาณ4,791เมตร

เราก็จะพบกับซากเรือรบต่างๆที่ได้เป็นเรือที่เอาไว้ใช้ทำการรบกันในช่วงสมัยของสงครามโลกครั้งที่สองแต่อย่างไรก็ตามเราได้ลงลึกลงไปอีกประมาณ6,000เมตร ซึ่งมันจะได้เป็นจุดเริ่มต้นของThe Hadal Zone จากนั้นหากจะพูดถึงในระดับน้ำที่ได้มีความลึกขนาดนี้

ว่ามันจะมีแรงดันน้ำอยู่ที่ประมาณเท่าไร ซึ่งต้องบอกเลยว่ามันจะมีแรงดันน้ำมากถึงประมาณ1,100เท่า เมื่อคุณนั้นได้อยู่ข้างบนเหนือผิวน้ำ หากจะเปรียบเทียบตัวของช้างที่ได้ยืนอยู่บนสเตมไปรษณีย์หรืออาจจะเปรียบเทียบกับคนแบกเครื่องบิน747จำนวน50ลำเองทีเดียว

นอกจากนี้ในระดับน้ำที่มีความลึกขนาดนี้ตัวของคุณนั้นจะถูกบดและขยี้ตัวคุณนั้นได้เป็นผงในทันทีหากแม้ว่าตัวของคุณนั้นไม่ได้มีเครื่องที่จะช่วยทำการป้องกันอันตรายใดๆแต่ถึงอย่างไรมันก็ยังคงมีสิ่งที่มีชีวิตอยู่ได้

 

สนับสนุนโดย  9luck thailand

เรื่องที่หลายคนอาจจะยังไม่เคยเห็นกับตัวมาก่อน

พายุทอร์นาโดยักษ์

ต้องบอกเลยว่าในประเทศไทยของเรานั้นถือว่ายังโชคดีที่ไม่ต้องไปเจอกับเหตุการณ์ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติอย่างพายุทอร์นาโดยักษ์อย่างนี้หรือเรียกว่าพายุงวงช้างอย่างในรูปนี้แต่ สำหรับในพื้นที่แถบของทวีปสหรัฐอเมริกาในบางพื้นที่พวกชาวบ้านในระแวกนั้นเขาก็จะต้องพบเจอกับพายุที่มีความรุนแรงแต่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโลก เนื่องจากวันที่6พฤษภาคม ในปี พ.ศ.2561นั้น ซึ่งมันได้มีเหตุการณ์ที่มันได้ปรากฎพายุด้านทอร์นาโดที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดเท่าที่ได้เลยเจอมา นอกจากนี้พายุทอร์นาโดขนาดใหญ่นี้ยังได้มีความเร็วอยู่ที่ประมาณ150ไมล์ต่อชั่วโมงของประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งด้านทาง

เจ้าหน้าที่นั้นก็ยังได้ออกมากล่าวอีกว่า บ้านเรือนได้พังเสียหายพังถลายลงเป็นอย่างมากแต่โชคยังดีไม่มีใครเป็ฯอันตรายต่อพายุทอร์นาโดนี้ เนื่องจากพายุลูกนี้ได้ปรากฎการขึ้นมาประมาณ30นาทีด้วยกัน ซึ่งมันได้เคลื่อนที่ไปประมาณ17กิโลเมตร สำหรับเจ้าพายุทอร์นาโดนั้นมันก็ได้เกิดขึ้นมาจากการก่อตัวของอากาศ

ซึ่งมันจะสามารถที่จะปรากฎการขึ้นมาได้หลากหลายลักษณะ ทั้งนี้ลักษณะของพายุทอร์นาโดนั้นที่ได้มีปรากฎการและเจอบ่อยมากที่สุดนั้นก็คือ ลักษณะเป็นรูปทรงกรวยซึ่งด้านที่เป็นปลายโคนนั้นจะชี้ลงมาที่ด้านพื้น แต่อย่างไรก็ตามพายุทอร์นาโดนี้มันมีระดับความแรงที่จะถลายล้างได้สูงด้วยความเร็วของลมประมาณ500กิโลเมตรต่อชั่วโมง อย่างไรก็ตามเจ้าพายุทอร์นาโดเหล่านี้มันสามารถที่จะพังบ้านเรือนให้พังถลายลงไปด้วยโดยหมด

ชายชราอายุ70ปีไปเรียนกับเด็ก

สำหรับเรื่องนี้เป็นใครก็ไม่เชื่อใช่หรือไม่เพราะนี้คือน่าตาของคนวัย70ปีที่ได้ไปศึกษาเหล่าเรียนกับรุ่นราวคาวเดียวกับลูกหลาน เนื่องจากนี้มันเป็นข้อบ่งชี้ได้เลยว่าอายุมันไม่สำคัญต่อการเหล่าเรียนมากเท่าไร ซึ่งนายดูร์กา คามีที่มีอายุราว70ปีคนนี้เขาได้เป็นคนชั้นจัณฑาล เนื่องจากนายดูร์กา

นั้นในสมัยช่วงวัยเด็กเขาได้มีความฝันเอาไว้ว่าเขานั้นอย่างที่จะเป็นครู แต่เนื่องด้วยสถานภาพทางครอบครัวยากจน นอกจากนี้เมื่อตัวเขานั้นได้มีโอกาสนายดูร์กาจึงได้ทำการสานต่อของความฝัน โดยนายดูร์กาเขาได้พักอาศัยอยู่เพียงลำพังภายในบ้านพักที่้ได้ตั้งอยู่ทางด้านตอนกลางของประเทศเนปาล นายดูร์กามีภรรยาหนึ่งคนลูกสาวอีกสี่คน

แต่ทางด้านลูกสาวก็ได้ออกเรือนไปมีครอบครัวกันไปหมดแล้วส่วนด้านภรรยาของนายดูร์กาเขาได้เสียชีวิตไปแล้วอีกทั้งนายดูร์กานั้นก็ยังได้มีหลานๆอีกทั้งประมาณ8คน ซึ่งนายดูร์กาที่เขานั้นได้กลับไปเรียนนั้นก็ได้เริ่มจากโรงเรียนประถมจากนั้นเขาก็ได้สอบเข้าผ่านและได้เข้ามาเล่าเรียนในมัธยมตอนต้น

 

สนับสนุนโดย เว็บพนัน ออนไลน์

การเป่าแก้วแนววิทยาศาสตร์

แก้วที่เรารู้จักเป็นอย่างดี สามารถนำไปใช้ประโยชน์ต่างๆได้มากมาย ซึ่งแก้วที่เรารู้จักมีคุณสมบัติเป็นการโปร่งแสง และยังมีความทนทานต่อสารเคมีต่างๆอีกด้วย นอกจากนั้นแก้วยังมีความแข็งแกร่งไม่แพ้วัสดุอื่นๆที่เรารู้จักเลยแหละ แก้วมีรูปร่างแปลกแตกต่างกันไป เนื่องจากแก้วถูกออกแบบด้วยการนำศิลปะมาใช้ผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ จึงออกมาเป็นรูปแบบแก้วที่เราพบเจอตามสถานที่ต่างๆ 

การเป่าแก้วที่เราจะพูดถึงในบทความนี้เป็นการคิดค้นจากคนชาวซีเรีย 

ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเหตุต่างๆเป็นการที่เขาได้นำหินโทรนา(Trona) มาใช้ในการก่อเตาที่บริเวณที่ชายหาดแห่งหนึ่ง ซึ่งเขาได้ค้นพบว่าโทนาและทรายได้ถูกหลอมเข้าด้วยกัน แต่หลังจากที่ไฟได้ดับลงและสิ่งเหล่านั้นได้เย็นตัวลงจึงเห็นเป็นแก้วที่ใส 

การเป่าแก้วมีด้วยกันอยู่ 2 แบบ นั้นก็คือ การเป่าแบบวิทยาศาสตร์ การเป่าแบบศิลปะเพื่อความสวยงาม

ทั้ง 2 แบบนี้มันมีความแตกต่างกันอยู่พอสมควร ซึ่งก่อนหน้านี้หรือสมัยก่อนนั้นการเป่าแก้วจะเป็นการเป่าด้วยการใช้ตะเกียงซึ่งจะคล้ายปัจจุบันแหละ ซึ่งวิธีการเป่านั้นสามารถทำได้ด้วยการเป่าทางด้านใดทางด้านหนึ่งของท่อโลหะกลวง (Blowing pipe) ซึ่งจะมีปลายของทางด้านหนึ่งนั้นเป็นหลอดแก้ว และพวกมันจะทำการหลอมรวมกันจับตัวเป็นก้อน เนื่องจากการเป่าแก้วประเภทนี้จะเป็นการเป่าที่สามารถสร้างรูปทรงและรูปแบบหรือขนาดได้ตามต้องการ แต่จะกระทำได้ก็ในขณะที่แก้วเหล่านั้นยังมีความร้อนอยู่นั้นเอง สำหรับการเป่าแก้วในวิธีนี้จะเป็นการใช้เวลาที่ค่อนข้างนานพอสมควร ซึ่งจะรวมไปถึงอาจขะต้องมีเตาหลอมในการทำด้วยซ้ำ และอาจจะต้องใช้จำนวนคนในการทำการเป่าแก้วในลักษณะแบบนี้

การเป่าแก้วแบบใช้ตะเกียงในการเป่าแก้ว ซึ่งวิธีในการทำนั้นจะเป็นการทำที่เร็วกว่าวิธีอื่นๆนอกจากจะเร็วกว่ายังง่ายกว่าอีกด้วยนะและไม่จำเป็นที่จะต้องใช้จำนวนคนในการทำอีกด้วยนะเพราะเป็นการกระทำได้ด้วยบุคคลคนเดียว 

สำหรับวิธีนี้จะเป็นการใช้ตะเกียงในการเป่าแก้วทำให้เกิดเป็นรูปเป็นร่างตามจินตนาการหรือที่เรียกว่าศิลปะนั้นเอง

เนื่องจากตะเกียงเป่าแก้วจะถูกแบ่งให้เป็น 2 ประเภทด้วยกัน ได้แก่ แบบตั้งโต๊ะ และเป็นแบบมือถือ โดยกระทำการผ่านกรรมวิธีด้วยการส่งท่อเชื้อเพลิงเป็นการผ่านผลังงานจากแก๊สของเชื้อเพลิงในรูปแบบต่างๆ ได้แก่ ก๊าซบิวเทน หรือ ก๊าซหุงต้ม และ ก๊าซไฮโดรเจน เป็นต้น นอกจากนั้นยังมีการแยกท่อของก๊าซออกซิเจนรวมกันแล้วไปผสมที่หัวเตา ดังนั้นหากมีการจุดไฟจะมีความร้อนขึ้นสูงมากกว่า 1,000 องศาเซลเซียส 

ผลกระทบจากฝีมือของมนุษย์โลก

ผลกระทบจากฝีมือของมนุษย์โลกที่อาจทำให้ประชาชนมีความเสี่ยง

วิกฤติหมอกควัน

วิกฤติพิษทางอากาศPM2.5หมอกควันปกคลุมท้องฟ้าเหนือเมืองใหญ่ก็คงจะไม่ใช่เรื่องที่จะไกล้ตัวสำหรับเราอีกต่อไปและหมอกควันเหล่านี้มันคือมนพิษจากทางอากาศที่ได้มีการมองเห็นได้ง่ายมากที่สุดและในความเป็นจริงแล้วมนพิษทางด้านอากาศนั้นมีทั้งที่มองเห็นได้และไม่สามารถมองไม่เห็นได้ด้วยตาเปล่าPM2.5มันคือฝุ่นที่ได้มีขนาดที่เล็กกว่า2.5ไมครอน

และนั่นก็หมายความว่ามันได้เป็นฝุ่นที่มีขนาดที่เล็กมากมากจนสามารถผ่านระบบกรองในส่วนร่างกายของเราเข้าไปได้อย่างง่ายดายฝุ่นที่ได้มีขนาดเล็กเพียงแค่ครึ่งหนึ่งของเม็ดเลือดด้วยซ้ำและเนื่องจากฝุ่นประเภคนี้ได้เกิดจากแหล่งกำเนิดเฉพาะนั่นก็คือการเผาไหม้ที่ได้เกิดกิจกรรมของมนุษย์

และการรวมกันของก๊าซและมนภาวะอื่นในชั้นบรรยากาศถึงแม้ว่าในปัจจุบันในหลายๆเมืองใหญ่ได้ตระหนักถึงภัยอันตรายที่มองไม่เห็นนี่กันบ้างแล้วแต่สำหรับประเทศที่กำลังจะได้พัฒนาซึ่งก็ยังไม่ได้มีระบบที่บริหารและจัดการคุณภาพอากาศที่ดีเพียงพอและประชาชนที่ได้อาศัยอยู่ตามเมืองใหญ่เหล่านั้น

ย่อยเลี่ยงต่อการเจ็บป่วยซึ่งหากไม่สามารถควบคลุมลดปริมาณของฝุ่นได้เป็นเวลานานมันก็อาจจะก่อทำให้เกิดภัยร้ายที่อันตรายต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์จากการเจ็บป่วยในระบบทางเดินหายใจปอดจะต้องได้รับผลกระทบอย่างเต็มๆมันจึงอาจจะทำให้เกิดด้านโรคหอบหืดโรคซีโอพีดีและส่วนของมะเร็งปอดได้อีกทั้งยังได้ส่งผลต่อระบบหมุนเวียนโลหิตเนื่องจากมันได้มีขนาดที่เล็กมาก

และมันสามารถผ่านเข้าปอดเข้ามาสู่กระแสเลือดได้และเมื่อเลือดนั้นได้เข้าสู่ยังร่างกายและนั่นเองมันก็จะหมายความว่าฝุ่นเหล่านี้อาจจะเข้าไปตกตะกอนในร่างกายของเรามันจึงได้ทำให้ได้เกิดโรคต่างๆอย่างเช่น ความดันโลหิตสูงอีกทั้งยังได้มีการแสดงด้านงานวิจัยเพื่อให้เราเห็นว่าค่าของฝุ่นละอองที่เรานั้นได้รับมัน

ได้มีผลต่อการยืดหยุ่นภายในของหลอดเลือดและอาจจะทำให้เกิดอาการที่รุนแรงอย่างเฉียบพลันกับกล้าเนื้อของหัวใจได้และในภัยเงียบสุดท้ายที่มันอาจจะไปกระทบของการดำรงอยู่ของของเผ่าพันธุ์มนุษย์นั่นก็คือผลกระทบต่อระบบสืบพันธุ์เนื่องจากการการที่ได้รับฝุ่นเข้าไปอย่างปริมาณมากที่เข้าไปอย่างต่อเนื่อง

มันจึงจะทำให้ความสามารถในการสร้างลดลงอสุจิอีกทั้งยังได้มีผลต่อการตั้งครรภ์กล่าวคือมันอาจจะทำให้น้ำหนักตัวของทารกน้อยได้คลอดออกมาก่อนกำหนดความเสี่ยงในการแท่งและทารกเสียชีวิตได้เพิ่มสูงมากขึ้น

ผู้มาเยือนจากต่างดาว ตอนความลึกลับของสฟิงซ์

สฟิงซ์ยิ่งใหญ่แห่งกิซ่าน่าจะเป็นอนุสาวรีย์ที่ลึกลับที่สุดในโลกแต่พอเราแก้ปริศนามันได้เราจะเจอข้อพิสูจน์สุดยอดว่ามีมนุษย์ต่างดาวมาเยือนบรรพบุรุษเราจริงหรือไม่ที่ราบสูงกิซ่าอียิปต์ปี1925สิ่งที่โผล่ออกมาจากทะเลทรายคือ อนุสาวรีย์รูปหัวมนุษย์ขนาดใหญ่เป็นเวลาหลายศตวรรษที่ผู้มาเยือน

ส่วนใหญ่เชื่อว่าที่นี่มีอยู่เพียงเท่านี้แต่ว่าวิศวกรชาวฝรั่งเศสปักใจเชื่อว่ามีสิ่งอยู่ใต้พื้นดินมากกว่าที่นักโบราณคดีรู้อีกมาก เคา้เริ่มขุดค้นเพื่อเปิดเผยมันและหลังจากขุดอย่างละเอียดในเวลาเพียง11ปีเค้าขุดร่างสิ่งที่คล้ายสิงโตขนาดยักษ์ได้และทำให้โลกได้รู้จักความสง่างามของสฟิงซ์ยิ่งใหญ่อีกครั้งมันเป็นประติมากรรมหินชั้นใหญ่ที่สุดบนโลก สฟิงซ์ยิ่งใหญ่ที่หันหน้าไปทางพระอาทิตย์ขึ้นตั้งอยู่ห่างจากพีระมิดที่ใหญ่ที่สุดของอียิปต์3แห่งอยู่เกือบครึ่งไมล์

มันถูกแกะลักจากหินปูนใต้ดินด้วยหินก้อนเดียวแต่สูงกว่าๅ60ฟุตและยาวกว่า240ฟุตมันน่าจะเป็นอนุสาวรีย์ที่ถูกศึกษามากที่สุดในโลกแต่มันยังเป็นอันที่ลึกลับที่สุดไม่มีถ้อยคำจารึกใดๆที่ระบุว่าใครสร้างมันหรือทำไมแต่นักอียิปต์วิทยาส่วนใหญ่ให้อายุมันที่2,500ปีก่อนคริสตกาลและดูเหมือนว่ามันจะมีความเกี่ยวข้องกับพีระมิดอียิปต์นักอียิปต์วิทยาคิดอยู่เสมอว่าพีระมิดในอียิปต์เป็นสุสานของฟาโรห์

แต่ยังไม่มีการพบฟาโรห์หรือมัมมี่ยุคราชวงศ์อียิปต์ในพีระมิดในอียิปต์เลยนักวิชาการส่วนหนึ่งยังยืนยันว่าพีระมิดยิ่งใหญ่และพีระมิดอื่นในอียิปต์ที่จริงเป็นโรงไฟฟ้าที่ซับซ้อนมากและพีระมิดเองก็ไม่ได้ถูกสร้างมาเพื่อสร้างพลังงานมหาศาลใช่หรือไม่พลังงานที่ต้องใช้เปิดประตูดวงดาวและนี่ก็เป็นสิ่งหนึ่งของแผนการชุบชีวิตที่ใช้เดินทางในยุคนั้นที่จริงเขตกิซ่าจะทำหน้าที่เป็นอุปกรณ์เทคโนโลยีหรือไม่อุปกรณ์ที่ช่วยในการขนส่งไปโลกอื่นและอย่างที่นักทฤษฏีดาราศาสตร์ของโบราณ

เสนอแนะและหากบางที่มันอาจจะพบหลักฐานความเชื่อมโยงชิ้นนี้ได้เพิ่มเต็มจากการที่ได้มีการสำรวจการเรียงตัวอย่างแม่นยำที่ได้พบในบนที่ราบสูงในการวิเคราะห์เชิงโบราณคดีดาราศาสตร์ได้เปิดเผยว่าตำแหน่งของพีระมิดที่ยิ่งใหญ่3อันนี้มันเหมือนกับว่ามันจะหลอกเลียนดาวแถบโอไรออน3ดวงในดาวส่องสว่าง2ดวงและดาวอับแสงอีกดวงหนึ่งที่เยื้องไปทางซ้ายนิดหน่อยที่แปลกก็คือแม้ว่าห็นความเกี่ยวข้องได้ชัดเจนมุมที่ดาวทำในท้องฟ้าจะแหลมกว่ามุมของพีระมิดเป็นอย่างมาก

และนั่นเป็นสิ่งที่นักโบราณคดีตัดสินใจเชื่อหลังจากศึกษามาเป็นเวลาหลายปีก่อนดาวพวกนี่จะเรียงตัวเหมือนพีระมิดบนพื้นดินเป๊ะๆเลยหรือไม่มันยังเป็นคำถามที่น่าสนใจอยู่นะยังไม่มีข้อสรุปว่าสฟิงซ์เป็นเครื่องพิสูจน์สุดยอดว่ามนุษย์ต่างดาวเคยอยู่บนโลกในอดีตห่างไกลหรือไม่และถ้าจริงจะมีคำใบ้ที่ซ่อนอยู่ในรูปปั้นหินเดี่ยวที่ไม่เพียงแต่จะเปิดเผยความลับเกี่ยวกับประวัติศาสตร์เรา

 

ขอบคุณเว็บ bk8  ที่ให้การสนับสนุน

ผู้มาเยือนจากต่างดาวจากมนุษย์ต่างดาวในหมู่มนุษย์

ในวันที่5มิถุนายน ค.ศ2013หนังสือพมพ์ประจำวันอังกฤษในThe Guardians เปิดเผยว่าเอกสารจากสำนักงานความมั่นคงแห่งสหรัฐรั่วไหลออกมาท่ามกลางพวกนั้นเป็นคำสั่งจากศาลตรวจข่าวกรองต่างประเทศต้องการที่จะให้Verizonส่งข้อมูลจากโทรศัพท์ของชาวอเมริกันหลายล้านคนมายังFBIและNSA 4วันต่อมา Edward Snowden อดีตผู้เชี่ยวชาญความปลอดภัยไซเบบอร์

สำนักข่าวกรองกลางได้เข้ามารายงานตัวเพราะว่าเป็นต้นตอของการรั่วไหล เมื่อขอให้อธิบายการกระทำของเขาสโนว์เดนกล่าวว่าผมสามารถเข้าถึงอีเมล รหัสผ่านบันทึกโทรศัพท์ บัตรเครดิตผมไม่อยากจะอยู่ในโลกที่ทุกอย่างที่ผมทำและพูดถูกบันทึกNSA คือ สำนักงานความมั่นคงแห่งชาติหรือ สำนักงานสายลับแห่งชาติ ซึ่งควบคุมจอระบบสื่อสารทั่วโลกทุกรูปแบบการสื่อสารอิเล็กทรอนิกส์

เพื่อจุดประสงค์ของความมั่นคงของชาติเพื่อระบุ และต้องต่อต้านการคุกคามต่อเมริกาเอกสารชิ้นหนึ่งที่ Edward Snowdenได้ปล่อยเกี่ยวกับโครงการชื่อมิสติค ซึ่งสามารถบันทึกการฟังทุกการสนทนา ทั่วประเทศ ทั่วโลกเทคโนโลยีน่าสนใจมากเพราะว่ามันทำให้ชีวิตของเราดีขึ้นในหลายๆทางมีผู้ที่เชื่อว่า การพัฒนาของเทคโนโลยีนี้ไม่ใช่สิ่งที่เราทำเองทั้งหมดแต่เราถูกชี้นำโดยผู้มาเยือนที่มายังโลกครั้งแรกเมื่อหลายพันปีก่อนนักทฤษฏีพระเจ้าอวกาศยืนกรานว่าใช่

โดยมนุษย์ต่างดาวตั้งใจว่าเราจะเข้าสู่การเชื่อมต่อกันด้วยเทคโนโลยีและเรากำลังถูกมอง ไม่เพียงโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลแต่โดยจากมสิ่งนอกโลกของเรา พวกเขายังอ้างอีกว่าได้เตรียมพวกเราไว้ในแนวทางนี่ตั้งแต่โบราณแล้วและเราสามารถพบหลักฐานของการคงอยู่ของพวกเขาในเรื่องราวของกลุ่มมนุษย์ต่างดาวโบราณที่รู้จักกันในนาม “ผู้พิทักษ์”  ในบทที่4ของพระคัมภีร์ภาษาฮิบรูผู้พทักษ์ถูกอธิบายว่าเป็นกลุ่มของพระเจ้าที่ดูแลซึ่งต่อมาเชื่อมโยงกับเทวดาผู้พิทักษ์เป็นผู้ส่งสารที่จำเป็นและนี่คือเหตุผลที่นักวิชาการหลายคนเข้าใจ

ผู้พิทักษ์เป็นระดับชั้นของเทวดา เทวดาถูกเข้าใจว่าเป็นผู้ส่งสารในพระคัมภีร์พวกเขามีทักษ์ในการจัดการโลก เฝ้ามนุษย์และบ้างก็พูดได้ว่าผู้พิทักษ์ที่ดีพวดเขาทำงานของพวกเขาตามหน้าที่แล้วก็มีบางพวกที่ว่ากันว่า เป็นผู้พิทักษ์ที่เลวมันพูดถึงผู้พิทักษ์ที่ไม่มีอะไรเกิดขึ้นบนโลกที่ไม่ได้กระทำโดยมือของพวกเขา

และสร้างโดยตัวแทนของพวกเขาพวกเขาคือใคร พวกเขาคืออะไรพระคัมภีร์ไม่ได้เข้าไปในรายละเอียดมากแต่มีบันทึกอื่นอีกมากที่สอนเกี่ยวกับสิ่งที่ถูกบันทึกในพระคัมภีร์และมีชื่อเสียงอันหนึ่ง นั่นคือพระคัมภีร์ “ENOCH”พระคัมภีร์ “ENOCH”บรรจุการพบเห็นและรับรู้ด้วยตนเองของคุณตาทวดของโนอาห์

 

สนับสนุนโดย  rb88

การสำรวจภากิจของโรเวอร์

มาร์ส คิวริออสซิตี ราคา 2,500ล้านเหรียญ เป็นโรเวอร์ที่ทันสมัยที่สุดที่เคยสำรวจสภาพดาวอังคารนอกจากเก็บภาพถ่ายความคมชัดสูงและตัวอย่างอากาศกับลมขณะที่มันเดินทางข้ามผิวดาวแล้วมันยังสามารถหมุนกล้องได้เองด้วยความสามารถที่ทำให้วิศวกรนาซ่าวินิจฉัยและแก้ปัญหาจากโลกได้น่าแปลกที่ใน50วันสุริยะที่ทำภารกิจโรเวอร์ส่งภาพลึกลับกลับมายังโลก

แสดงงสิ่งที่นักววิจัยบางคนเห็นเป็นเงารูปร่างคล้ายมนุษย์กำลังทำงานกับโรเวอร์เมื่อมองจากภาพเราจะเห็นคนตรงนั้นและถึงแม้ว่าพวกเขาไม่ได้ใส่หมวกแต่ดูเหมือนว่าจะใส่อุปกรณ์และแว่นบางอย่างแล้วทำให้คนคาดเดาว่าสิ่งที่ทำอยู่บนดาวอังคารอาจมีมากกว่าที่นาซ่าและโครงการอวกาศของกองทัพบอกว่าเราทำได้นาซ่ารู้เรื่องดาวอังคารมากกว่าที่บอกเราเยอะพวกเขาปล่อยรูปพวกเขายอมปล่อยข่าว

พวกเขาไม่ได้พูดถึงมันโดยรวมแต่ว่าพวกแค่ยอมให้คนที่มีตาคนที่อยากเห็นดูของพวกนี้แล้วเข้าใจว่ามันคืออะไรแต่พวกเขาไม่พูดอะไรเพราะว่าพวกเขาถูกผูกมัดด้วยความจริงทางการเมืองนั่นเอง จอร์ช นูรี นักทอล์ค โชว์ทางวิทยุชื่อดังวัย 68ปี ได้กล่าวว่าเราได้รับโทรศัพท์จากคนชื่อแจ็คกี้ ซึ่งอ้างว่าเธอเป็นอดีตพนังงานของนาซ่าเธอเล่าเรื่องใหญ่ว่ายานโรเวอร์ของเราส่งภาพที่นาซ่าได้อุบเอาไว้ภาพมนุษย์กำลังเดินไปเดินมาบนดาวอังคารและเธอน่าเชื่อถือเป็นอย่างมากเธอดูจะรู้ดีว่าเรื่องที่เธอพูดกำลังพูกถึงอะไรอยู่มีทฤษฏีเสมอว่ามีโครงการอวกาศซ้อนโครงการอวกาศที่เรารู้มันเป็นโครงการลับมันเป็นโครงการที่เงินหลายล้านล้านเหรียญได้หายไปเฉยๆ

และไม่มีใครรู้ว่าเงินหายไปไหนไม่มีใครรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นภาพถ่ายจำนวนมากได้รับการพิสูจน์และเฉลยแล้วว่าไม่ใช่หลักฐานของอารยธรรมจากต่างดาวบนดาวอังคารนั่นรวมไปถึงใบหน้าบนดาวอังคารด้วยซึ่งแท้จริงแล้วที่เราเห็นเป็นใบหน้านั้นเกิดจากแสงและเงาที่ตกกระทบกันนั่นเองและถึงแม้ว่าหลายภาพได้ถูกพิสูจน์แล้วแต่ก็ไม่สามารถไขปริศนาของภาพได้ทั้งหมด

ได้แฮกเกอร์ชาวสก็อตแลนด์ชื่อแกรี่แมคคินนอนแฮ็กฐานข้อมูลของนาซ่าและพบไฟล์ที่มีรายชื่อของสิ่งที่เรียกว่าเจ้าหน้าที่นอกโลกเจ้าหน้าที่ในกองทักที่อาศัยและทำงานอยู่นอกดาวโลกของเราซึ่งนอกโลกไม่ได้หมายถึงดาวอังคารเสมอไปแต่ว่ามันหมายถึงในอวกาศและมันบ่งชี้ว่ามีโครงการอวกาศลับสุดยอดบางอย่างที่ประชาชนไม่เคยรับรู้อาจมีปฏิบัติการลับของทหารสหรัฐบนดาวอังคารจริงหรือไม่ถ้ามีมันเกิดขึ้นนานแค่ไหนแล้ว

นักวิจัยบางคนบอกว่าแผนกลยุทธ์เพื่อไปดาวอังคารเกิดขึ้นก่อนเราไปถึงดวงจันทร์ซะอีกและโดยนักวิทยาศาสตร์คนเดียวกนที่ทำให้เราไปถึงที่นั่นเขาชื่อเวิร์นเนอร์ วอน บราวน์ เวิร์นเนอร์ วอน บราวน์เป็นอัจฉริยะเรื่องจรวดและเขาหลงไหลการไปดาวอังคารเขาหลงไหลศาสตร์ของจรวดและเขาเขียนหนังสือในปี1948 ที่ชื่อมาร์สโปรเจค

บนดาวอังคารมีโครงสร้างคล้ายทรงพีระมิดจริงหรือไม่?

554 วันสุริยะ หลังยานมาร์ส คิวริออสซิตี โรเวอร์ลงพื้นมันได้ส่งภาพพาโนรามาความคมชัดสูงใหม่ล่าสุดของภูมิประเทศดาวอังคารมาที่โลกเมื่อตรวจสอบ นักธรณีวิทยาสมัครเล่นประกาศการค้นพบน่าตะลึง สิ่งที่ดูเหมือนรูปปั้นที่ดูคล้ายมนุษย์การค้นพบนี้

เป็นแค่หนึ่งในวัตถุคล้ายโลกนับสิบที่พบในภาพจากโรลเวอร์รวมถึงโรงศพหิน พระพุทธรูปและแม้กระทั่งไม้กางเขนมีวัตถุต่างๆมากมายบนดาวอังคารที่คนเห็นหรือคิดว่าเห็นในภาพโรเวอร์หลายภาพและมันองข้ามได้ยากเพราะว่ามันดูเหมือนกับประติมากรรมที่มนุษย์สร้างขึ้นทุกอย่างแล้วต่อให้หลังจากเกิดมหาภัยพิบัติอย่างที่เห็นได้บนดาวอังคารก็จะพบเศษซากจากอารยธรรมที่สูญหายที่ได้ทิ้งร่องรอยสุดท้ายเอาไว้ว่าเราอยู่ที่นี่นักทฤษฏีมนุษย์อวกาศโบราณคิดว่าอาจมีวัตถุและโครงสร้างผิดธรรมชาติอื่นบนดาวอังคาร

ตั้งแต่ภาพแรกถูกส่งกลับมาจากภารกิจมาร์สไวกิ้งในปี1979 เจ้าหน้าที่นาซ่ายังได้อ้างว่าในความคล้ายคลึงของกองหินบนดาวอังคารกับวัตถุฝีมือของมนุษย์เกิดจากแพไรโดเลียเมื่อจิตใจเห็นรูปแบบที่คุ้นเคย เหมือนการเห็นรูปทรงในเมฆ แพไรโดเลีย เป็นปรากฏการณ์ทางจิตใจชนิดหนึ่งที่เกี่ยวข้องกับการรับรู้สิ่งที่ตามองเห็นหรือได้ฟังเช่นภาพหรือเสียงที่ไม่ชัดเจน

และไม่มีรูปแบบที่แน่นอนแล้วตีความว่าเป็นสิ่งที่เคยเห็นหรือคุ้นเคยแต่ผู้เชี่ยวชาญถ่ายภาพบางคนไม่แน่ใจว่ามันเป็นแค่ตาฝาดจากภาพนี้ ผู้เชี่ยวชาญให้ความเห็นว่านี่อาจเป็นรูปปั้นที่เสียหายถูกฝังถึงคางและอาจจะมีอีกมากที่ฝังอยู่ใต้ทรายเห็นได้ชัดเจอว่า มันเป็นสิ่งที่เราน่าจะเจอในแถบอเมริกากลางหรือว่าใต้อาจมีซากอารยธรรมที่สูญหายกระจายอยู่ทั่วภูมิประเทศดาวอังคารหรือไม่ ซากที่เหมือนกับสิ่งที่มีอยู่บนดาวเคราะห์ของเราเองนักทฤษฏีมนุษย์อวกาศโบราณบอกว่า ใช่

และเสนอว่านี่เป็นหนึ่งในวัตถุมากมายบนดาวอังคารที่ดูเหมือนมีคู่เหมือนบนโลกของเราโครงสร้างบางอย่างบนดาวอังคารอาจเกี่ยวข้องเต็มที่กับโครงสร้างบนโลกนี้บนดาวอังคารมีโครงสร้างคล้ายพีระมิดมีหินตั้งและหินแบบสโตนเฮนจ์บนดาวอังคารและยังมีโครงสร้างบนดาวอังคารที่ดูเหมือนกับสฟิงซ์อีกด้วยแถวไซโดเนียมีวัตถุมากมาย รวมถึงพื้นที่ที่เรียกว่าเมืองเป็นที่ที่พยใบหน้าบนดาวอังคารและมีพีระมิด5เหลี่ยมขนาดใหญ่มีกระจุกวัตถุแบบพีระมิดอยู่ใกล้กันด้วยและที่น่าสนใจมากเกี่ยวกับเมืองก็คือมีบางคนชี้ว่า

ถ้าเรานำยอดพีระมิดทั้งหมดที่นั่นมาพวกมันจะตรงกับผังของดาวลูกไก่นี่เป็นบางอย่างที่เราเห็นบนโลกเราเห็นโบราณสถานมากมายที่วางผังให้สะท้อนถึงกลุ่มดวาลูกไก่เช่นเดียวกันมันจะเป็นไปได้ไหมว่า โครงสร้างบนดาวอังคารนั้นเป็นของจริงแล้วก็มาจากการทำเทียมนั่นเป็นบางอย่างที่ศาสตร์ทั้งหมดบอกเอาไว้ว่ามีอารยธรรมไหนที่สร้างสิ่งนี้ขึ้นมาและมันเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบางคนแนะว่า พวกเขาอาจจะหนีจากดาวอังคารแล้วก็มาที่โลกของเราเพื่อความอยู่รอด