ไม่ว่าเราจะทำอะไรสิ่งที่เราควรใช้ในการตัดสินใจก็คือ ความคิด การวิเคราะห์ และการกระทำเหล่านี้จะต้องผ่านการไตรตรองอย่างถี่ถ้วนแล้วจาก สมอง สมองถือได้ว่าเป็นส่วนประกอบสำคัญของร่างกาย เพราะระบบการทำงานต่างๆภายในร่างกายจะต้องถูกสั่งการผ่านสมองก่อนเสมอ อย่างเช่น ตา มีหน้าที่ในการรับรู้การมองเห็น
เมื่อเรากำลังมองเห็นอะไร ประสาทสัมผัสของตาจะถูกส่งไปยังสมองเพื่อประมวลว่าสิ่งๆนั้นคืออะไร เป็นต้น ระบบกลไกในร่างกายนั้นทำงานได้อย่างรวดเร็วอยู่แล้ว อย่างที่ได้ยกตัวอย่างไปหลายคนบอกว่าสมงอจะประมวลทันได้อย่างไร
ในเมื่อตาคือสิ่งที่มองเห็นเป็นสิ่งแรก ถ้าหากคุณสงสัยเช่นนี้ ก็เท่ากับว่าคุณนั้นไม่เข้าใจกลไกของร่างกายได้ดีมากพอ ซึ่งอาจจะต้องศึกษาเพิ่มเติม แต่ในบทความนี้เราจะไม่ได้มาอธิบายถึงกลไกการทำงานของร่างกาย แต่จะมากล่าวถึงการใช้งานของสมอง คุณทราบหรือไม่ว่ามนุษย์เราในปัจจุบันนี้ยังใช้สมองได้ไม่เต็มที่เท่าที่ควร ยกตัวอย่างถึงบุคคลสำคัญ อัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ ที่ยังคงเก็บสมองของเขาเอาไว้
ได้ทำการวิจับออกมาเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่นั้น ไอน์สไตน์ได้ใช้งานยังสมองเพียง 3-5% เท่านั้น จาก 100% คิดดูว่านี้คือนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งและหลายๆคนนับถือเป็นอย่างมาก เมื่อเทียบกับมนุษย์โลกทั่วไป สมองถูกใช้งานเพียง 2-4% เท่านั้น จึงมีทีมวิจัยที่ตั้งคำถามขึ้นมาว่า ถ้ามนุษย์ใช้สมองทำงานเต็มที่ 100% จะเป็นอย่างไร ได้มีการสันนิฐานออกมาว่า มนุษย์จะสามารถสื่อสารกันได้ทางความคิดทางจิต
โดยที่ไม่ต้องพูด และได้ทำการทดลองโดยหาผู้ที่สมัครใจในการทดลองครั้งนี้ ซึ่งการทดลองนี้ได้นำกระแสไฟฟ้าเข้าช่วยในเร่งการทำงานของสมอง เพราะสมองของมนุษย์มีคลื่นกระแสไฟฟ้าอยู่ จากมนุษย์ที่สมัครใจในการมาทดลองบางคนนั้นถูกเร่งสมองถึง 40% ก็เสียชีวิต
เพราะร่างกายรับไม่ไหว และบางคนถูกเร่งสมองได้ถึง 60-80% ได้มีการทำข้อตกลงไว้ล่วงหน้าแล้วว่า จะให้ผู้ทดลองเขียนอะไรก็ได้ลงในกระดาษและเก็บไว้เป็นความลับ ในขณะที่ทำการเร่งสมองให้นึกถึงสิ่งที่เขียนในกระดาษส่งความคิดไปยังคนปกติ ก่อนที่ผู้ทดลองจะทนไม่ไหวจนเสียชีวิต ซึ่งคนที่ได้รับความคิดของผู้ทดลองนั้นบอกถึงความคิดที่ได้รับ และปรากฏว่ามันตรงกับสิ่งที่ผู้ทำการทดลองเขียนเอาไว้
การทดลองครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะไม่มีผู้ทดลองคนใดที่ถูกเร่งสมองให้ใช้งานได้ถึง 100% แต่ก็พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าถ้าหากสมองของมนุษย์ถูกใช้งานถึง 100% มนุษย์เราจะสามารถทำสิ่งต่างๆได้ดั่งใจ แต่ในปัจจุบันในชีวิตปกติเราจะสังเกตเห็นว่า การที่เราคิดเยอะหรือใช้ความคิดมากก็ปวดสมองแล้ว นั้นเป็นเพราะหลักการเดียวกันที่ว่า เราไม่สามารถใช้งานสมองได้สูง แต่ในอนาคตก็ไม่มีอะไรแน่นอน วิทยาการทางวิทยาศาสตร์อาจจะก้าวหน้าที่จะสามารถเร่งการใช้งานของสมองให้สูงเพิ่มขึ้นก็อาจจะเป็นไปได้เช่นกัน
สนับสนุนโดย entaplay login