สำหรับฝนเลือด/Blood Rainหลายๆคนก็อาจจะงงว่ามันคืออะไรถ้าพูดตามหลักพระพุทธศาสนาฝนเลือดก็คือฝนโบกขรพรรษ ฝนเลือดนี้มันได้เป็นฝนเลือดที่มันเกิดขึ้นมาไม่ได้บ่อยครั้งและมันได้เกิดขึ้นมาบนโลกของเรามาแล้วหลายครั้งมากเพราะล่าสุดที่มันเกิดขึ้นมา
ซึ่งเราได้ไปเจอข่าวทางยุโรปที่เขาได้บอกว่ามันเกิดมาจากฝนสีแดงหรือฝนที่มันได้ตกลงมาคล้ายๆเหมือนกับสีน้ำตาลข้นไปทางแดงจนเขาเลือดว่าฝนเลือดมันเลยเป็นที่ตกใจของชาวบ้านตรงบริเวณนั้นแล้วก็ได้มีการเก็บเอาตัวอย่างมาตรวจสอบปรากฎว่าผลที่ได้ออกมามันคือ ในฝนเลือดนั้นมันได้มีเซลล์ของสิ่งที่มีชีวิตอยู่ในนั้นแต่สิ่งที่มีชีวิตนั้นไม่ใช่ที่มีชีวิตที่เป็นสปีชีส์ในโลกของเรา
เขาก็เลยสรุปว่านี้มันเป็นสิ่งที่มีชีวิตที่ตกมาจากต่างดาวบางคนก็อาจจะบอกว่ามันเป็นฝนกดหรือเปล่าบอกเลยว่ามันไม่ใช่เขาได้ยืนยันออกมาแล้วว่ามันไม่ใช่ฝนกดตรวจออกมามันเจอเซลล์สิ่งมีชีวิตจริงๆแล้วมันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตบนโลกและ จากข้อมูลตรงนี้เราได้เกิด ทฤษฎีหนึ่งอันขึ้นมาแล้วทฤษฎีอีกหนึ่งอันของเรา
มันดันไปตรงกับนักวิทยาศาสตร์คนหนึ่ง ซึ่งเขาได้บอกว่าอาจจะเกิดฝนเลือดในอดีตแล้วฝนเหล่านั้นจะมีสิ่งมีชีวิตปะปนกันมาด้วย ซึ่งตรงนี้ค่อนข้างที่จะน่าสนใจเป็นอย่างมากเพราะว่าถ้าใครได้ลองไปหาข้อมูลกันจริงๆมันก็จะมีการยืนยันอยู่ว่าเคยเกิดขึ้นในอดีตตั้งแต่ยุคที่ยังไม่มีไดโนเสาร์เลยด้วย
และมันได้เกิดขึ้นมาเรื่อยๆถึงมันจะไม่ได้เกิดขึ้นมาอยู่บ่อยครั้งแต่มันก็ยังได้มีการบันทึกการเกิดอยู่แต่ถ้าจะเอาตามความคิดของเรา เราคิดว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ที่สิ่งที่มันได้มีชีวิตอยู่บนโลกของเรามันอาจจะเกิดขึ้นโดยถูกบังคับให้เกิดหรือเปล่าเราได้คิดอยู่แบบนี้แล้วทฤษฎีนี้
ซึ่งเราได้ลองนำเอามาตีความกันว่าถ้าสิ่งที่มันมีชีวิตบนโลกของเราไม่ได้เกิดขึ้นมาเองโดยตามธรรมชาติแต่มันถูกบังคับให้มันได้เกิดขึ้นมาล่ะเป็นไปได้หรือมไ่มันอาจจะเป็นหลักการเดียวกันกับการปลูกผักเพื่อเอาผลผลิตเราลองเปรียบเทียบกันว่า ถ้าหากเราลองเอาฟาร์มๆหนึ่งและมีการย่อนเมล็ดลงมา
ให้ต้นไม้ให้สิ่งมีชีวิตมันได้เจริญเติบงอกงามและวิวัฒนาการขึ้นมาเรื่อยๆจนถึงวันหนึ่งที่วิวัฒนาการถึงจุดสูงสุดหรือมันถึงเวลาที่เก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ววันนั้นคนที่สร้างเราขึ้นมาหรือบังคับให้เราเกิดเขาอาจจะกลับมาเก็บเกี่ยวผลผลิตหรือเปล่า
สนับสนุนโดย เว็บพนัน