บทเรียนจากการใจดีโอนไวต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์

บทเรียนจากการใจดีโอนไวต้องการช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอาจเป็นสาเหตุทำให้คนอื่นถูกทารุณกรรมได้

          จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับหนูน้อย 2 คนที่ชื่อว่าน้องอิ่มบุญและน้องอมยิ้มวัยเพียงแค่ 4 ขวบและ 3 ขวบที่ทั้งสองคนต้องถูกกระทำจากคนที่ได้ชื่อว่าเป็นแม่ด้วยการวางยาพิษทีละเล็กทีละน้อยเพื่อหวังเพียงเงินบริจาคจนในที่สุดก็ทำให้เด็กหญิงอมยิ้มเสียชีวิตจากการถูกวางยาพิษในครั้งนี้

โดยสาเหตุนั้นเพียงเพราะผู้เป็นแม่นั้นต้องการนำเงินบริจาคมาใช้จ่ายส่วนตัวซึ่งการที่เธอโพสต์คลิปลูกสาวทั้งสองคนอาเจียนออกมาเป็นเลือดทำให้หลายคนในโลกโซเชียลต่างพากันสงสารโอนเงินไปให้เธอช่วยให้เธอเอาลูกไปรักษาให้หายแต่กลับกลายเป็นว่าความหวังดีของโลกโซเชียลนั้นทำให้เด็กน้อยทั้งสองคนต้องได้รับความทนทุกข์ทรมาน

           จากเรื่องนี้ใบคนเริ่มมองถึงเรื่องของการรับบริจาคผ่านทางโลกโซเชียลว่าอาจจะเป็นดาบสองคมก็เป็นได้บางคนรับบริจาคเพราะได้รับความเดือดร้อนจริงๆแต่บางคนกลับเห็นความใจดีของคนในโลกออนไลน์สร้างเรื่องขึ้นมาเพื่อขอรับเงินบริจาคอย่างกรณีของเด็กหญิงน้องอมยิ้มและน้องอิ่มบุญนั้นเกิดขึ้นมาจากหญิงสาวคนหนึ่งซึ่งเธอเองไม่เคยมีลูกมาก่อนแต่ก็ได้ไปขอเด็กคนอื่นมาเลี้ยงเป็นลูกและทำทีว่าตนเองนั้น

เป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยวต้องหาเลี้ยงลูกคนเดียวทั้งสองคนรวมถึงการทำให้เด็กทั้งสองคนนั้นป่วยด้วยการให้เด็กค่อยๆกินยาพิษเข้าไปทุกวันแล้วอ้างกับคนในโลกออนไลน์ว่าเด็กทั้ง 2 คนไม่สบายและไม่สามารถหาสาเหตุอาการป่วยได้เส้นทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลก็แล้วแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นจึงได้มีการโพสต์คลิปออกมาในโลกโซเชียลพร้อมทั้งขอรับเงินบริจาคในการที่จะพาน้องไปรักษา

ซึ่งหลายคนพอได้เห็นก็เกิดความรู้สึกสงสารและอยากให้เด็กทั้งสองคนหายดีต่างก็พากันโอนเงินไปให้หญิงสาวคนดังกล่าวโดยไม่รู้เลยว่าเงินที่พวกเขาโอนไปนั้นยิ่งโอนเข้าไปมากเท่าไหร่หนูน้อยทั้งสองคนนั้นก็ยิ่งทรมานมากขึ้นเท่านั้นในที่สุดเด็กคนนึงก็ทนไม่ไหวเสียชีวิตไปก่อน

และเมื่อหนูน้อยคนที่ 2 กำลังจะตามอีกคนหนึ่งไปจึงทำให้โลกโซเชียลเริ่มรู้แล้วว่าแม่ของหนูน้อยทั้งสองคนนั้นจริงๆแล้วไม่ใช่แม่ที่แท้จริงและยังเป็นคนวางแผนที่จะทำร้ายเด็กทั้งสองคนอีกด้วยเพราะแค่หวังเงินบริจาคเรื่องราวของการเปิดรับของบริจาคเงินแล้ว ต้องการให้คนในโซเชียลก็ไปช่วยเหลือนั้นไม่ใช่แกนี้แค่แรกยังมีอีกหลายเคสด้วยกันที่คนเปิดรับขอบริจาคและเมื่อมีการโอนเงินให้บุคคลเหล่านั้นก็มีเงินทองตั้งตัวรวยเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้นอย่างเช่นคนขับรถแท็กซี่ที่อ้างมีเงินติดตัวแค่ 200 บาท

เพียงแค่คืนเดียวมีคนบริจาคเงินให้กับคุณลุงแท็กซี่มากถึง 8 ล้านบาทกลายเป็นคนรวยในพริบตาทันทีและเมื่อตรวจสอบไปลงขับรถแท็กซี่ก็ไม่ได้ยากจนมากและไม่ใช่ว่าไม่มีคนดูแลอย่างที่เคยกล่าวอ้างนี่คือข้อเสียของคนในโลกออนไลน์ที่เมื่อเห็นอะไรก็จะรู้สึกสงสารและไม่ได้ตรวจสอบให้ดีเสียก่อน

ทำให้มีการโอนเงินเข้าไปช่วยเหลืออย่างรวดเร็วซึ่งต่อไปนี้ควรจะมีการพิจารณาให้รอบคอบหากใครที่ออกมาขอเรี่ยรายผ่านทาง facebook ควรจะต้องมีการให้รัฐบาลตรวจสอบเสร็จก่อนด้วยการติดต่อไปที่ 1300 เพื่อที่จะได้มีการใช้ข้อมูลให้แน่นอนก่อนที่จะมีการโอนเงินช่วยเหลือจะได้ไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำสองเหมือนกรณีของน้องอิ่มบุญและน้องอมยิ้มขึ้นอีก

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  sagame77