ควรให้ลูกอายุเท่าไหร่ดี ถึงค่อยพาไปเรียนพิเศษ

ในสังคมปัจจุบันที่ประเทศกำลังมีการแข่งขันกันในทุกทุกด้านค่อนข้างสูง นั้น พ่อแม่แต่ละคนก็มักจะคาดหวังให้ลูกของตัวเอง เรียนเก่ง มีโอกาสมากว่าเด็กคนอื่นอื่น และก็วาดหวังเอาไว้ว่าลูกของตัวเองจะต้องได้เข้าเรียนโรงเรียนดีดี และเป็นโรงเรียนที่มีชื่อเสียงระดับประเทศ

ดังนั้นเราจะเห็นได้ว่าพ่อแม่ส่วนใหญ่มักจะให้ลูกเข้าเรียนโรงเรียนพิเศษ โรงเรียนกวดวิชากันเป็นจำนวนมาก ซึ่งตอนนี้เด็กที่เพิ่งเข้าเรียนระดับชั้นอนุบาลก็ต้องเริ่มเรียนพิเศษกันแล้ว เพราะต้องไปต่อสู้แย่งกับเด็กคนอื่นเพื่อสอบเข้าโรงเรียนดังดังให้ได้ ตั้งแต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 กันเลยทีเดียว

ซึ่งอันที่จริงแล้วเด็กในวัยอนุบาลยังไม่ควรที่จะต้องมาเรียนพิเศษอย่างเคร่งครัดมากมายจนเกิดไป เพราะด้วยวัยของพวกเขาแล้ว การพัฒนาความรู้และการเรียนรู้ต่างต่างควรจะมาจากประสบการณ์ที่พวกเขาได้ลงมือทำจริงจริง  พวกเขาควรจะมีชีวิตในวัยเด็กที่ได้วิ่งเล่น และมีเสียงหัวเราะการที่บังคับให้เด็กต้องเรียนแต่สิ่งที่เป็นเรื่องของวิชาการเท่านั้น พวกเขาจะไม่ได้ใช้ชีวิตในวัยเด็กอย่างมีความสุข

และการพัฒนาสมองและการเรียนรู้จากประสบการณ์ เพื่อให้เขาพัฒนาตนเองไปตามวัยก็จะหายไป ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเสียดายเป็นอย่างยิ่ง และจะมีผลเสียที่จะตามมาอีกมากมาย ดังเช่น 

  • เด็กจะมีความเครียด เพระอยู่ในสภาวะที่ต้องถูกเร่งรัดอยู่ตลอดเวลาให้ต้องเรียนหนังสือมากเกินไป บางครั้งการที่เราให้เด็กเรียนทั้งที่ยังไม่ถึงวัยของเราที่จะต้องมาเรียนรู้กับเรื่องเหล่านี้ จะเป็นสิ่งที่สร้างความกดดันให้กับเด็ก 
  • การที่เด็กเรียนพิเศษอยู่ตลอดเวลา เด็กจะไม่มีโอกาสได้ใกล้ชิดกับพ่อและแม่ เพราะถึงแม้แม่กับพ่อจะไปเฝ้าเวลาที่ลูกเรียนพิเศษแต่ก็อยู่เพียงหน้าห้องเท่านั้นไม่ได้เข้าไปเรียนหรือร่วมกิจกรรมกับเด็กด้วย ซึ่งจะทำให้พ่อแม่และลูกไม่ค่อยมีความผูกพันธุ์กัน
  •  การที่ให้เด็กเรียนตั้งแต่ยังอยู่ในชั้นอนุบาล จะเป็นการปิดโอกาสการพัฒนาสมองของเด็กไม่ให้ได้เรียนรู้ตามวัยที่เขาสมควรจะได้รับ ซึ่งเด็กในวัยนี้ควรจะเรียนรู้เกี่ยวกับการเข้าสังคม และฝึกฝนทางด้านอารมณ์มากว่า

และสำหรับวัยที่เหมาะสมกับการเรียนพิเศษนั้น หากเป็นปัจจุบันนี้ ควรมีอายุสักประมาณ 8หรือ 9 ปีขึ้นไปก็สามารถที่จะเรียนพิเศษได้แล้ว หรือหากอยากจะเริ่มให้เด็กเก่งเร็วกว่าปกติสักประมาณ ปี 1 หรือประมาณอายุสัก 6 ปีก็เพียงพอแล้วที่จะเริ่มให้ลูกเรียนพิเศษ

สิ่งที่เด็กในกรุงเทพต้องเจอเมื่อพ่อแม่เลือกแนวทางการศึกษาให้

สำหรับคนที่เป็นพ่อเป็นแม่คน เมื่อลูกเกิดมาสิ่งทีต้องคิดตามมาหลังจากลูกเกิด

นอกเหนือจากว่าจะทำอย่างไรที่จะเลี้ยงลูกให้มีความสุขแล้ว ปัญหาใหญ่ที่พ่อแม่ทุกคนมักวิตกกังวลก็คือ  เมื่อถึงเวลาที่ลูกต้องเข้าโรงเรียน เราจะส่งลูกเข้าเรียนที่ไหนดี ซึ่งหากเป็นเมื่อในสมัยก่อนสิ่งเหล่านี้ พ่อแม่จะไม่ได้ต้องคิดมากนัก เพราะลูกสอบเข้าที่ไหนก็เรียนที่นั่น ขึ้นอยู่กับการเลือกของลูกเอง แต่ในสมัยนี้ไม่เหมือนกัน การแข่งขันของการสอบเข้าเรียนมีสูงขึ้นจากเดิมมาก

ซึ่งพ่อแม่ทุกคนก็หวังอยากจะให้ลูกของตัวเอง เข้าเรียนที่โรงเรียนดีดี มีชื่อเสียง มีเด็กเก่งที่ไปสร้างชื่อที่ต่างประเทศ ดังนั้นโรงเรียนในกรุงเทพจึงมีการแข่งขันค่อนข้างสูงเป็นอย่างมาก ทุกวันนี้พ่อแม่ส่วนใหญ่เมื่อรู้ตัวเองว่ากำลังจะมีลูก ก็ต้องเตรียมตัวหาข้อมูลโรงเรียนเอาไว้ก่อนแล้ว

และหลายคนยังมีการคำนวณว่าเด็กจะเกิดเมื่อไหร่ เข้าเรียนประมาณปีไหน และมีการไปจองการสมัครเรียนเอาไว้ให้ลูกล่วงหน้าแล้ว

ทั้งที่ลูกยังไม่คลอดออกมาเสียด้วยซ้ำไป  และเมื่อคลอดออกมาเด็กหลายคนมักจะต้องพบกับปัญหาพ่อแม่หาที่เรียนพิเศษเอาไว้ให้แล้ว ซึ่งเด็กเหล่านั้นยังไม่ได้เข้าเรียนเลยด้วยซ้ำ แต่ด้วยพ่อแม่ต้องการที่จะให้ลูกของตัวเองสามารถสอบเข้าโรงเรียนที่มีชื่อเสียงให้ได้ จึงต้องพาลูกไปเรียนพิเศษแทนที่เด็กเหล่านั้นจะได้ไปวิ่งเล่นเหมือนเด็กคนอื่นอื่นทั่วไป

ปัจจุบันเด็กหลายคนถูกพ่อแม่บังคับให้เรียนพิเศษโดยไม่เปิดโอกาสให้เด็กมีสิทธิ์เลือกเองว่าอยากเรียนหรือไม่ เคยสอบถามพ่อแม่บางคนที่พาลูกไปเรียนพิเศษส่วนใหญ่พ่อแม่จะมีการจัดตารางเอาไว้ให้แล้ว อย่างวันจันทร์ จนถึงวันศุกร์ หลังจากเลิกเรียนแล้วตั้งแต่สี่โมงเย็นจนถึงสองทุ่ม เป็นเวลาที่เด็กต้องเรียนพิเศษ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนเสริมจากที่ครูสอนในโรงเรียนแล้ว

ยังมีเรียนดนตรี และเรียนตี Golf ในตอนเย็นเพราะพ่อแม่มองว่านี่จะเป็น Profile ที่ดีให้กับลูกในอนาคตได้ และสำหรับวันเสาร์และวันอาทิตย์ เด็กก็จะต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเป็นเรียนพิเศษเพิ่ม ทั้งเรียนเสริมคณิตศาสตร์ เรียนเสริมภาษาอังกฤษ เรียนเสริมภาษาจีน และยังมีเรียนเปียโน รวมถึงเรียนว่ายน้ำเพิ่มอีกด้วย 

เรียกได้ว่าตั้งแต่เช้า ยันค่ำของทุกวันเด็กสมัยนี้แทบไม่ได้หยุดพักเลยสักวัน ซึ่งเป็นสิ่งที่สร้างความกดดันให้กับเด็กเด็กมาก พ่อแม่หลายคนมองว่านี่การปูพื้นฐานการเรียนที่ดีให้กับลูกเพื่ออนาคตที่ดีของลูก จนลืมคิดไปว่าวัยเด็กของลูกหากผ่านไปแล้วไม่สามารถย้อนกลับมาได้ เราควรให้พวกเขาเรียนและเล่นไปพร้อมๆกันน่าจะดีกว่า เพื่อที่พวกเขาจะได้มีชีวิตในวัยเด็กอย่างมีความสุข