ทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับเดจาวู

สำหรับประวัติของเดจาวูนั้นก็ได้มีทฤษฎีที่เกี่ยวกับพลังจิต ซึ่งเดจาวูนั้นเคยถูกนับว่าเป็นพลังจิตในรูปแบบหนึ่งหรือบางคนก็ว่าได้เป็นทิพจักขุญาณหรือความรู้สึกที่ได้ใช้ตาทิพ ถ้าเอาจริงๆแล้วในตามความเชื่อเราทุกคนนั้นต่างก็ได้มีพลังจิตกันอยู่แล้วแต่ทุกคนนั้นพลังจิตจะอ่อนหรือแข็งก็จะขึ้นอยู่

แต่ละบุคคลเพราะแต่ละคนก็จะมีบุคคลที่ฝึกแต่พลังจิตด้วยการนั่งสมาธิอะไรก็แล้วแต่ที่จะทำให้ดวงจิตนั้นได้มีความแข็งไปกว่าคนทั่วไปที่ไม่ได้ฝึกพลังจิตและมันก็อาจจะเห็นภาพเห็นวิญญาณหรืออาจะเห็นภาพในอนาคตที่มันกำลังจะเกิดขึ้นในอันใกล้หรือเรียกสั้นๆ

ว่าถาคิในการสังเกต และในประวัติการณ์ได้มีคนถูกบันทึกเอาไว้ในหน้าประวัติศาสตร์ว่ามี เดจาวู ที่แข็งแก่งที่สุดและไม่มีใครที่จะสามารถเทียบได้จนถึงปัจจุบันนี้ที่ได้มีชื่อว่า นอสตารเดมุส และสำหรับทฤษฎีจักรวาลคู่ขนานซึ่งจริงๆแล้วทฤษฎีตรงนี้เป็นอะไรที่มันหน้าสนใจเป็นอย่างมากเพราะว่าเราได้ไปศึกษาข้อมูลมาแล้วเราได้รู้สึกคิดว่ามันมีความที่จะเป็นไปได้สูงแล้วถ้าเกิดว่าใครที่อยากจะดูเกี่ยวเรื่องของโลก

คู่ขนาน สำหรับทฤษฎีที่เกี่ยวกับโลกคู่ขนานได้เป็นทฤษฎีที่นักฟิสิกส์ได้คิดค้นกันขึ้นมาสมมุติว่าเรามีสองเหตุการณ์ให้เลือกว่าเราจะทำหรือว่าเราจะไม่ทำซึ่งตรงนี้มันได้เป็นสองเหตุการณ์ที่เราจะเลือกหรือไม่เลือกแล้วทีนี้เรายังได้เลือกเส้นทางหนึ่งสมมุติเราเลือกคำว่าทำและอีกเส้นทางหนึ่งที่ไม่ทำคุณแน่ใจมากแค่ไหนว่ามันจะไม่เกิดขึ้นถ้าลองมิติคู่ขนานมันมีอยู่จริงแล้วมันมีคนที่เราได้คิดแบบนี้

อีกคนหนึ่งเขากลับเลือกเส้นทางตรงกันข้ามคือไม่ทำ คิดง่ายๆคือ โลกแรกคิดว่าทำฉีดออกไปทางซ้าย โลกที่สองคิดว่าไม่ทำฉีดไปทางขวา ทีนี้เราก็ได้แบ่งออกเป็นสองโลกแล้วทีนี้มันก็ได้เรียกว่ามันเป็นโลกคู่ขนานแล้ว และลองมานั่งคิดดูว่าถ้าไอคนที่คิดว่าทำเขาได้มีการตัดสินใจสิ่งใดสิ่งหนึ่ง

อีกสองทางเลือกก็แสดงว่าจะเกิดอีกสองเส้นทางว่าจะเลือกทางซ้ายหรือทางขวาแล้วถ้าสมมุติว่าไอคนที่มันได้ปฏิเสธไปในรอบแรกและมีอีกสองทางเลือกในการตัดสินใจงั้นก็แสดงว่ามันจะเกิดโลกคู่ขนานสองโลกคู่ขนานขึ้นไปเรื่อยๆจนมันไม่มีที่สิ้นสุดและสิ่งนี้มันก็ได้เป็นทฤษฎีที่มันได้เกี่ยวข้องกับคู่ขนานซึ่งหลายคนก็อาจจะงงว่าทฤษฎีตรงจุดนี้มันไปเกี่ยวอะไรกับเดจาวู

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  bk8