ข้อเท็จ จริงที่คุณไม่เคยรู้เกี่ยวกับดวงจันทร์

สุภาษิตของชาวอิตาลีได้กล่าวไว้ว่า  หากว่าดวงอาทิตย์ยังส่องแสงใส่ฉัน ฉันก็จะไม่ไยดีต่ดวงจันทร์มันชั่งเป็นคำที่ฟังดุแล้วเป็นคำเย่อหยิ่งเหมือนดั่งว่าดาวบริวานของโลกนั้นไม่มีค่าพอที่จะชายตามอง

แต่เดี๋ยวมนุษย์เราก็ได้ขึ้นไปเยียบบนดวงจันทร์มาแล้วตอนนี้ก็เหลือแค่เพียงดวงอาทิตย์เอาเป็นว่าเราจะมาเล่าแบ่งปันข้อเท็จจริงที่หน้าสนใจเกี่ยวกับดวงจันทร์ให้ณุ้แล้วกันมันอาจจะทำให้คุณเปลี่ยนความคิดจากดวงจันทร์ไปเลยก็ได้

(1) ดวงจันทร์นั้นเกิดจากการชนกันในอวกาศ  นักวิทยาศาสตร์เชื่อว่ามันเกิดขึ้นจากเศษหินของโลกชนเข้ากับวัสถุอวกาศซึ่งมันมีขนาดใหญ่เท่ากับดาวอังคารหลังจากที่พวกมันโคจรมาชนกัน

(2) รูปทรงของดวงจันทร์นั้น  มันไม่ใช่ทรงกลมอย่างที่เรานั้นได้เข้าใจกันมันมีรูปร่างค่อนข้างที่จะเหมือนไข่เพราะแรงดึงดูดของโลกนั่นเอง

(3)  ดวงจันทร์เปนดวงบริวานที่ไกล้  ดวงอาทิตย์มากที่สุดเนื่องจากดาวพุธกับดาวศุกร์ที่ไกล้มากกว่าโลกนั้นไม่มีดวงบริวาน

(4)  ด้วยเส้นผ่าศูนย์กลางเฉลี่ย2,159ไมล์ดวงวจันทร์ของเราเป็นดาวที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่5 ในระบบสุริยะตามหลังของดาวบริวานพฤหัสบดี แกนีมีด คาลลิสโต และ โล กับดาวบริวานดาวเสาร์ไททัน

(5)  พวกเราสามารถพบกับสุริยุปราคาได้อยู่บ่อยๆแต่จันทรุปราคา  จะเกิดขึ้นสักครั้งในหลายร้อยปี

(6)  ดวงจันทร์มันอาจจะดูเหมือนจะมีขนาดเท่ากับดวงอาทิตย์แต่ที่จริงแล้วดวงอาทิตย์ของเรามีขนาดใหญ่กว่าดวงจันทร์ ถึง 400เท่า และที่หน้าทึ่งไปกว่านั้นคือ มันอยู่ไกลกว่าดวงจันทร์ถึง 400เท่าด้วยนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไม่พวกมันดูเหมือนขนาดที่มีเท่าๆกันเมื่อมองขึ้นไปจากมุมโลก

(7)  ถึงแม้ว่าดวงจันทร์อาจจะดูสว่างมากความสามารถในการสะท้อนแสงของมันนั้นน้อยกว่าโลกถึง 3 เท่า นั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้พวกเขาจะต้องใช้เทคโนโลยีเพิ่มแสงสว่างของดวงจันทร์เมื่อนำมารวมอยู่บนรูปถ่ายพร้อมกับโลก

(8) เราต้องมีดวงจันทร์ถึงประมาณ 300000 ดวงเพื่อที่จะสร้างแสงสว่างในกลางคืนให้เท่ากับแสงสว่างในตอนบ่ายแถม260000 ดวงจากจำนวนที่กล่าวนั้นจะตองเป็นพระจันทร์ที่เต็มดวงอีกด้วย

(9)  ดวงจันทร์ออกห่างจากโลกของเรา 1.5นิ้วทุกๆปี  ซึ่งจริงๆแล้วครั้งแรกดวงจันทร์นั้นอยู่ห่างจากดลกเพียง 1,4000ไมล์ แต่ตอนนี้มันอยู่ห่างถึง 250,000ไมล์ในอีกประมาณ600ล้านข้างหน้าขนาดที่เรามองเห็นจากบนโลกนั้นจะเล็กจนไม่มีจันทรุปราคาอีกต่อไปแต่ใครจะไปอยู่ถึงตอนนั้นล่ะจริงไหม

(10)  ดวงจันทร์ทำให้เกิดปรากฏการณ์ น้ำขึ้นน้ำลงเพราะแรงดึงดูดของดวงจันทร์นั้นมีอิทธิพลต่อมหามหาสมุทรและน้ำจะขึ้นสูงสุดเมื่อวันที่พระจันทร์นั้นเต็มดวงและพระจันทร์ดับ

 

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  ole777

แมวก็มีสิทธิ์ติดไวรัสโคโรน่าได้นะ

นักวิทยาศาสตร์ไม่แน่ใจว่าไวรัสจากแมวสามารถแพร่กระจายสู่ผู้คนได้หรือไม่ แมวสามารถติดเชื้อ coronavirus ที่เป็นสาเหตุของ COVID-19 และแพร่กระจายไปยังแมวตัวอื่น แต่สุนัขนั้นไม่ไวต่อการติดเชื้อ ทีมที่สถาบันวิจัยสัตว์แพทย์ฮาร์บินในประเทศจีนสรุปว่าไก่, หมูและเป็ดไม่น่าจะติดไวรัส

นักวิทยาศาสตร์กล่าวว่าสิ่งที่ค้นพบนั้นน่าสนใจ แต่เจ้าของแมวก็ยังไม่ควรตื่นตระหนก ผลการทดลองขึ้นอยู่กับการทดลองในห้องแล็บซึ่งมีสัตว์จำนวนไม่มากที่ติดเชื้อไวรัส SARS-CoV-2 ในปริมาณสูงและไม่ได้เป็นตัวแทนของการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างสัตว์เลี้ยงกับสัตว์เลี้ยงของพวกเขาในชีวิตจริง ลินดา ซาอิฟ กล่าวว่า มหาวิทยาลัยโอไฮโอ สเตตในโคลัมบัส ไม่มีหลักฐานโดยตรงว่าแมวที่ติดเชื้อได้หลั่งไวรัสโคโรน่าเพียงพอที่จะทำให้คนติดเชื้อได้

เมื่อ coronavirus แพร่กระจายอย่างรวดเร็วไปทั่วโลกทำให้บางคนกังวลว่าไวรัสสามารถผ่านระหว่างสัตว์เลี้ยงและคนได้หรือไม่ จนถึงขณะนี้มีรายงานสัตว์เลี้ยงติดเชื้อไม่กี่ตัว: แมวในเบลเยียมและสุนัขสองตัวในฮ่องกง “ แมวและสุนัขนั้นมีการสัมผัสใกล้ชิดกับมนุษย์ดังนั้นจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะต้องเข้าใจความอ่อนแอของพวกเขาต่อ SARS-CoV-2 สำหรับการควบคุม COVID-19” ผู้เขียนของการศึกษาล่าสุดเขียนบทความเกี่ยวกับ bioRxiv เมื่อวันที่ 31 มีนาคม

ทีมนำโดยนักไวรัสวิทยา บู ซิเกา ที่ติดเชื้อแมวในบ้าน 5 ตัวด้วย SARS-CoV-2 ผ่านทางจมูก เมื่อแมวสองตัวถูกกำจัดออกในอีกหกวันต่อมานักวิจัยพบว่าไวรัส RNA เช่นเดียวกับอนุภาคไวรัสที่ติดเชื้อในทางเดินหายใจส่วนบน

แมวที่ติดเชื้ออีกสามตัวถูกขังอยู่ในกรงถัดจากแมวที่ไม่ติดเชื้อสามตัว ทีมตรวจพบไวรัส RNA ในแมวที่ไม่ติดเชื้อซึ่งแสดงให้เห็นว่าพวกมันติดเชื้อไวรัสจากแมวที่ติดเชื้อผ่านทางเดินหายใจ แมวทั้งสี่นั้นยังผลิตแอนติบอดี้ต่อต้าน SARS-CoV-2 การเฝ้าระวัง SARS-CoV-2 ในแมวควรได้รับการพิจารณาว่าเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการกำจัด COVID-19 ในคน

แต่ ซาอิฟ กล่าวว่าไม่มีแมวที่ติดเชื้อตัวใดมีอาการป่วยและมีเพียงหนึ่งในสามตัวที่สัมผัสกับสัตว์ที่ติดเชื้อเท่านั้นที่ติดไวรัส “ สิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าไวรัสอาจไม่สามารถแพร่กระจายในแมวได้อย่างมาก” เธอกล่าว ยิ่งไปกว่านั้นรูปแบบของการส่งผ่านนั้นไม่ชัดเจนเนื่องจากการศึกษาไม่ได้อธิบายถึงวิธีการติดตั้งกรงและแมวที่ไม่ติดเชื้อสามารถติดเชื้อไวรัสจากอุจจาระหรือปัสสาวะที่ปนเปื้อน

และต้องทดสอบเพิ่มเติมในกรณีที่แมวติดเชื้อไวรัสในปริมาณที่แตกต่างกันเพื่อดูว่าพวกมันสามารถส่งต่อไปยังแมวตัวอื่นได้หรือไม่ ซึ่งก็ต้องรอการทดสอบอีกครั้งว่าไวรัส โคโรน่าในแมวจะแพร่เข้าสู่คนได้หรือไม่

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  betbb

อากาศเป็นพิษดับสิ่งมีชีวิตทั่วโลก

โลกเราถือว่าโชคดีเป็นอย่างมากที่มีอากาศสดใส แต่เอาเข้าจริงแล้วถ้าตามทฤษฎีของการกำเนิดโลกนั้น เราจะเห็นได้ว่าเดิมที่โลกของเรานั้นไม่ใช่แบบนี้ โลกเมื่อหลายพันล้านปีก่อนนั้นเปรียบเสมือนก้อนหินแข็งๆ ที่ไม่มีอะไรเลย ในเวลาต่อมาก็เปลี่ยนสภาพเป็นพื้นแผ่นดินที่มีแต่ลาวาความร้อนอาศัยอยู่ ทั้งน้ำ

และสิ่งมีชีวิตเองก็ได้ถือกำเนิดเกิด ซึ่งเป็นสิ่งที่วิทยาการทางวิทยาศาสตร์เองนั้นก็ยังไม่สามารถที่จะหาคำตอบของแหล่งกำเนิดมันได้ มีแค่เพียงการสันนิฐานเอาไว้เท่านั้น เช่นเดียวสภาพอากาศที่ได้มีแนวคิดออมาว่าแต่ก่อนนั้นโลกของเราไม่มีออกซิเจนอยู่

มีแต่คาร์บอนไดออกไซด์ แต่ถ้าหากจะถามหาสาเหตุของการเปลี่ยนแปลงนั้น ต้องบอกก่อนเลยว่ามันมีหลากหลายทฤษฎีมาก อย่างเช่น เพราะมีน้ำเกิดขึ้น จึงไปปฏิกิริยากับชั้นบรรยากาศ และแสงแดที่แสงสังเคราะห์ทำให้เกิดออกซิเจน เป็นต้น

และมันก็กลายมาเป็นอย่างที่เราเห็นจนปัจจุบัน แต่ถ้าหากวันหนึ่งอยู่อากาศเป็นพิษล่ะจะเกิดอะไรขึ้น อากาศนั้นถือว่าเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้มนุษย์ สัตว์ และพืชสามารถดำรงชีวิตอยู่ได้ แต่ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่าอากาศนั้นได้เริ่มสร้างปัญหาให้เราร่างกายเพิ่มมากขึ้น

ซึ่งมลพิษส่วนใหญ่ที่อยู่อากาศนั้นเกิดมาจากการเผาไหม้ของสารเคมี และพลังงานในชีวิตประจำวันของมนุษย์ จนก่อให้เกิดเป็นก๊าซหรือฝุ่นฟุ้งเข้าไปยังชั้นบรรยากาศอย่างเช่น โรงงาน ท่อไอเสียจากรถ หรือการปิ้งย่าง เมื่อหมอกควันเหล่านั้นเข้าสู่ร่างกายมนุษย์ผ่านทางการหายใจ

จะทำให้ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายในระยะยาว โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่มีภูมิคุ้มกันต่ำ จะก่อให้เกิดเป็นโรคภูมิแพ้หรือโรคหอบหืดได้อย่างง่าย

แต่ถ้าหากมลพิษเหล่านั้นตกลงมาพร้อมกับสายฝน จะส่งผลให้แหล่งดินและแหล่งน้ำเสื่อมคุณภาพ ไม่สามารถที่ใช้งานได้อีกต่อไป แม้แต่สิ่งปลูกสร้างเองก็จะถูกสารเคมีที่มากับน้ำฝนกัดกร่อนไปด้วย ปัจจัยการชีวิตรอดของสิ่งมีชีวิตไม่ได้เพียงแค่น้ำหรืออาหารเท่านั้น แต่ยังเป็นอากาศอีกด้วย

และในปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าอากาศนั้นได้เริ่มมีการแปรปรวนเป็นอย่างมาก มีทั้งพิษและเชื้อโรคปะปนเต็มไปหมด แล้วสาเหตุหลักของการที่ทำให้อากาศนั้นมีพิษเพราะการกระทำของมนุษย์เป็นเสียส่วนใหญ่ หรือนี้จะเป็นสิ่งธรรมชาตินั้นกำลังลงโทษเราอยู่

ในเมื่อมนุษย์เรากำลังทำลายธรรมชาติ ก็เป็นธรรมชาติที่กำลังย้อนกลับมาทำลายเรา และอย่างที่ได้บอกไปว่าอากาศเป็นปัจจัยสำคัญของสิ่งมีชีวิต ต่อให้มีน้ำมีอาหารแต่ถ้าหากไม่มีอากาศ สิ่งมีชีวิตที่อยู่บนโลกนี้ก็ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้อีกเช่นเคย

 

สนับสนุนโดย  รวมเว็บหวยออนไลน์

ปรากฏการณ์พระอาทิตย์ดับ เข้าสู่ช่วงยุคน้ำแข็งน้อย

อยากจะบอกว่าช่วงนี้ในตอนเช้าๆเวลาประมาณ 06.00 – 08.00 น. มีอากาศเย็นนะว่าไหม มีใครรู้สึกเหมือนกันหรือป่าว ทั้งๆที่ตอนนี้มันไม่ใช่หน้าหนาว แต่เอาจริงๆมันก็คือฤดูหนาวนะ แต่สำหรับประเทศไทยแล้วพวกเราคงไม่ได้หวังกับอากาศแบบนี้หรอกถูกไหม

เพราะประเทศไทยดูท่าแล้วจะเป็นอากาศร้อนทั้งปี แต่อย่าว่าอย่างนั้นอย่างนี้เลย ความรู้สึกว่าหลายๆวันมานี้ช่วงเช้าของเรานั้นรู้สึกเย็นขึ้นจริงๆนะ หรือว่าจะเข้าสู่ยุคน้ำแข็งน้อยแล้วจริงๆ สงสัยล่ะสิว่ายุคน้ำแข็งน้อยคืออะไร เดี๋ยวในบทความนี้เราจะมาอธิบายที่ของยุคน้ำแข็งน้อยกัน ซึ่งที่มาของการเกิดยุคน้ำแข็งน้อยขึ้นมานั้นก็คือ ปรากฏการณ์ดวงอาทิตย์ดับ อ่านฟังแล้วดูน่าตกใจใช่หรือไม่

มันไม่ใช่ปรกกฎการณ์ที่ดวงอาทิตย์จะหมดแสงหรือหมดความร้อนไปหรอกนะ แต่สิ่งที่จะเกิดขึ้นคือ ดวงอาทิตย์จะให้พลังงานความร้อนลดน้อยลง หลายคนอาจจะดีใจใช่หรือไม่ที่อากาศจะร้อนน้อยลง แต่อย่าลืมนะว่าส่วนหนึ่งของสภาพอากาศที่ร้อนนั้นไม่ได้เกิดขึ้นมาจากความร้อนของดวงอาทิตย์เพียงอย่างเดียว

มันยังมาจากอีกหนึ่งสาเหตุที่มนุษย์เรานั้นกระทำขึ้นนั้นเอง ว่าด้วยเรื่องดวงอาทิตย์ดับนั้นเกิดจากการที่พื้นผิวของดวงอาทิตย์บางส่วนยุบตัวลงไปในตัวของมันเอง จึงทำอุณหภูมิลดลง และสงผลมายังโลกที่ทำให้เกิดยุคน้ำแข็งน้อย ยุคน้ำแข็งน้อย หรือ ยุคน้ำแข็งเล็ก

นั้นจะทำให้โลกเรามีอุณหภูมิที่ลดลง ซึ่งในบางทีอาจจะมีอุณหภูมิลดลงถึง -50 องศาเซลเซียลเลยก็เป็นไปได้ และอย่างของประเทศไทยหลายคนอาจจะบอกว่าไม่หายร้อนหรอก แต่ก็อาจจะร้อนน้อยลงกว่าเดิมอยู่นะ ฟังดูแล้วอาจจะเป็นเรื่องดีนะเรื่องงของสภาพอากาศที่น่าจะช่วยบรรเทาความร้อนได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วนั้นมันแฝงไปด้วยข้อเสียมากกว่าข้อดีอีกนะ ยุคน้ำแข็งน้อยทำให้โลกมีอุณหภูมิที่เย็นขึ้น

จากร้อนชื้น ก็จะกลายเป็นแห้งชื้น ซึ่งสามารถก่อให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติได้หลายๆอย่างเช่น ไฟไหม้ป่า แผ่นดินไหว ภูเขาไฟที่ยังไม่ดับลงปะทุขึ้นมาอย่างรุนแรง หรือระดับน้ำทะเลจะสูงมาเพิ่มขึ้น เป็นต้น สิ่งเหล่าจะก่อให้เกิดภัยพิบัติขึ้นก็ได้

เพราะแสงแดดจากดวงอาทิตย์อาทิตย์ถือว่าเป็นแหล่งพลังงานในสิ่งมีชีวิตหลายๆอย่าง และสิ่งอีกสิ่งหนึ่งเราอาจจะต้องเผชิญนั้นก็คือ การขาดแคลนอาหาร และ โรคระบาด ซึ่งปรากการณ์ดวงอาทิตย์ดับ และ ยุคน้ำแข็งน้อย ทางน่า NASA เองก็ได้ออกมาเปิดเผยแล้วว่าโลกของเรากำลังเข้าสู่ช่วงเหตุการณ์เหล่านี้

และจะกินระยะเวลายาวไปนานมากกว่า 30 ปี หรือถึงปีค.ศ.2053 เลยทีเดียว จากสาเหตุเหล่านี้จึงอธิบายความรู้สึกได้พบว่าในช่วงเช้าและหลายๆพื้นที่ในประเทศไทยมีอาการที่เย็นขึ้นนั้น อาจจะเป็นปรากฏการณ์นี้ก็ได้

 

สนับสนุนโดย  คาสิโนออนไลน์ได้เงินจริง มือถือ

มารู้จักนักวิทยาศาสตร์ชื่อดังของโลกกันเถอะ

เชื่อว่าหลายคนคงรู้จักชื่อนักวิทยาศาสตร์กันบ้าง เพราะเราจะต้องเรียนรู้ชื่อและการมีชื่อเสียงของเขาเหล่านี้ว่ามีการสร้างชื่อเสียงอะไรไว้บ้าง หากใครที่ลืมไปแล้ววันนี้เรามาทบทวนให้ทราบกันอีกครั้งค่ะ

  1. อริสโตเติล (Aristotle)  เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่มีความเชี่ยวชาญหลายเรื่อง โดยเขามีชีวิตอยู่ในช่วงสมัยก่อนคริสต์ศํกราช เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวกรีก และที่สร้างชื่อเสียงให้กับเขามากที่สุดก็คือ การที่เขาสามารถแยกประเภทของสัตว์ได้ 2 ชนิดคือสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังกับสัตว์ที่ไม่มีกระดูกสันหลัง
  2. กูกลิเอลโม มาร์โคนี (Guglielmo Marconi)  สำหรับนักวิทยาศาสตร์คนนี้เป็นคนอิตาลี เขามีชื่อเสียงอย่างมากเรื่องการผลิตวิทยุเป็นคนแรกของโลก จนทำให้ครอบครัวของเขากลายเป็นมหาเศรษฐี เพราะได้ทำการเปิดบริษัทผลิตวิทยุโทรเลข เขาเกิดเมื่อวันที่ 25 เดือนเมษายน ปีคริสต์ศักราช 1874  ซึ่งได้เสียชีวิตลงในวันที่ 20 กรกฎาคม ปีคริสต์ศักราช 1937  รวมแล้วเขามีอายุได้ 63 ปี
  3. นิโคลา เทสลา (Nikola Tesla)  สำหรับนักวิทยาศาสตร์คนนี้เป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวโครเอเชีย สัญชาติอเมริกัน เขาเป็นผู้ที่ค้นพบการเปลี่ยนแปลงจากสนามแม่เหล็กมาเป็นสนามไฟฟ้า และยังมีการประดิษฐ์ขดลวดเทสลา  ที่สำคัญเขายังเป็นคนแรกที่ค้นพบวิธีการติดต่อสื่อสารกันแบบไร้สายได้อีกด้วย  แต่เชื่อไหมว่าเขาไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของคนในสังคมสักเท่าไหร่ เพราะเขาเป็นคนที่เข้าสังคมไม่ค่อยเก่ง เขาจึงได้รับสมยานามว่า นักวิทยาศาสตร์ที่โลกลืม ซึ่งนิโคลา เกิดวันที่ 10 กรกฎาคม คริสต์ศักราช 1856 และได้เสียชีวิตลงเมื่อวันที่  7 มกราคม คริสต์ศักราช 1943 ซึ่งโดยรวมแล้วเขามีอายุยืนยาวถึง 86 ปีเลยทีเดียว
  4. โทมัส อัลวา เอดิสัน (Thomas Alva Edison) เชื่อว่าหลายคนยังคนจำนักวิทยาศาสตร์ที่ชื่อ โทมัส อัลวา เอดิสัน กันได้เพราะเขามีชื่อเสียงอย่างมากในเรื่องของการคิดค้นหลอดไฟ ในปัจจุบันประวัติของเขายังถูกนำมาสร้างเป็นการ์ตูนเพื่อให้เด็กเด็กได้ชมผลงานของเขา เขาเป็นนักวิทยาศาสตร์ชาวอังกฤษ โดยเขาเกิดเมื่อวันที่ 11 กุมภาพันธ์ คริสต์ศักราช 1847  และมีอายุได้ 84 ปีก็เสียชีวิต ซึ่งเขาเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เดือนตุลาคม  คริสต์ศักราช 1931  ตามประวัติเล่าว่า โทมัส อัลวา เอดิสัน มีปัญหาเรื่องการอ่านหนังสือไม่ออก จนถึงอายุ 12 ขวบและเขายังประสบอุบัติเหตุบนรถไฟ ทำให้เขาสูญเสียการรับฟัง แต่เขาก็ยังสามารถสร้างผลงานดีๆออกมาให้คนทั้งโลกได้ชื่นชมผลงานของเขาได้

นี่เป็นเพียงรายชื่อนักวิทยาศาสตร์เพียงน้อยนิดเท่านั้นที่นำมาให้อ่านกัน ซึ่งยังมีนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งเก่งและมีชีวิตอีกมากมายหลายท่านที่จะนำมาแนะนำให้ทราบกันอีกภายหลัง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 ฟรี 300

มนุษย์ต่างดาวคือวิธีการตัดแต่งพันธุกรรมด้วยมนุษย์

คุณว่ามนุษย์อย่างเราเกิดมาจากอะไร? แล้วคุณมีความเชื่อเรื่องการมีอยู่จริงของมนุษย์ต่างดาวหรือไม่? หลายคนอาจจะกำลังสงสัยแล้วมันเกี่ยวอะไรกันระหว่างการมีอยู่ของมนุษย์ต่างดาว และการเกิดของมนุษย์โลกเรา

ถ้าหากตอบคำถามในส่วนของคำถามที่ว่ามนุษย์เกิดมาจากอะไร หลายคนอาจจะตอบว่าลิงใช่หรือไม่ เพราะวิทยาศาสตร์บอกมาแบบนั้น ทฤษฎีที่แท้จริงนั้นอธิบายว่า มนุษย์มีวิวัฒนาการมาจากลิง ไม่ได้บอกว่ามนุษย์เกิดมาจากลิง เพราะถ้าเป็นเช่นนั้นแล้ว ลิงเกิดมาจากอะไรก่อนหน้านี้

ซึ่งก็ไม่มีใครสามารถหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ได้อีเช่นเดียวกัน แล้วมันเกี่ยวอะไรกับมนุษย์ต่างดาวล่ะ ซึ่งเป็นข้อสันนิฐานที่บุคคลทั่วไปกล่าวถึงนั้นก็คือ มนุษย์ต่างดาวคือผู้สร้างมนุษย์ขึ้นมา ในดาวโลกของมนุษย์ต่างดาวที่อาศัยอยู่นั้น เชื่อว่ามีเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์เกิดขึ้นก่อนโลกของเรา

และก้าวไกลกว่าโลกของเราเป็นอย่างมาก เราไม่อาจสามารถหาคำตอบได้ว่าลิงที่ต่อมาวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์นั้นเกิดมาจากอะไร แต่สิ่งนี้ที่หลายคนคิดว่ามันเป็นไปได้ก็คือ มนุษย์ต่างดาวได้เดินทางมายังโลก แต่จับลิงที่มีรูปร่างลักษณะที่คล้ายกับมนุษย์มากที่สุดนั้นก็ลิงซิมแปนซี เอาไปทำการตัดต่อพันธุกรรม

โดยนำเซลล์ของมนุษย์ต่างดาวเข้าร่างกายของลิงเหล่านั้น จนกลายมาเป็นมนุษย์ เพราะตามหลักของวิทยาศาสตร์แล้วนั้นยังมีข้อสงสัยอยู่ว่า ลิงวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ได้อย่างไร เพราะไม่ว่าสิ่งชีวิตอะไรก็ไม่สามารถสืบพันธุ์ข้ามสปีชีร์ได้อย่างแน่นอน จะบอกว่าลิงไปสืบพันธุ์กับสัตว์ที่คล้ายกันก็เป็นไปได้อย่างแน่นอน ลิงจะวิวัฒนาการมาเป็นมนุษย์ที่มีความคิดได้จริงๆหรือ

ถ้าไม่ใช่มีอะไรมาเปลี่ยนแปลงโครงสร้างภายในร่างกายของลิง นั้นก็เท่ากับว่าร่างกายของมนุษย์เราก็เปรียบเสมือนมีเซลล์ของมนุษย์ต่างปะปนอยู่ด้วย ถ้าหากว่าข้อสันนิฐานนี้เป็นจริงขึ้นมา แต่ถึงอย่างไรเรื่องของมนุษย์ต่างดาวก็ยังไม่มีใครที่จะยืนยันอยู่ดีว่ามันมีอยู่จริง

แม้นักวิทยาศาสตร์เองนั้นก็ไม่สามารถหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ได้เช่นกัน แต่ในคำตอบนั้นก็เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน อย่าลืมว่าจักรวาลของเรานั้นกว้างใหญ่ไพศาล เป็นเส้นทางที่ไม่มีวันสิ้นสุด ไม่รู้ว่าจุดสิ้นสุดคือตรงไหน ดวงดาวที่อยู่ในจักรวาลมีมากมาย

ทั้งที่มนุษย์โลกเรายังไม่มีสามารถเดินทางออกไปสำรวจได้ทั่ว และมันก็เป็นสิ่งที่การันตีไม่ได้เหมือนว่าในจักรวาลแห่งนี้มีสิ่งมีชีวิตที่อาศัยอยู่บนดาวดวงอื่นๆ เหมือนกับโลกหรือไม่ ถึงอย่างไรแล้วเราคงต้องฝากความหวังกับเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ในอนาคตที่พัฒนามากยิ่งขึ้น เพื่อหาคำตอบสิ่งมีชีวิตข้างโลกนั้นกลับมาได้

 

ขอขอบคุณ  รหัสคูปอง rb88  ที่ให้การสนับสนุน

มนุษย์ต่างดาวหลักฐานของชาวอียิปต์

เชื่อกันว่าหลายคนคงอาจจะไม่ค่อยเชื่อในเรื่องของสิ่งลี้ลับกันสักเท่าไหร่ โดยเฉพาเรื่องภูตผีปีศาจ แต่สิ่งที่เรากำลังจะพูดถึงอยู่นี้เป็นเรื่องของสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกโลกนั้นก็คือ มนุษย์ต่างดาว เอาข้าจริงๆแล้วมนุษย์ต่างดาวสำหรับใครหลายๆคนก็ยังถือว่าเป็นเรื่องที่อยู่ในสิ่งลี้ลับไม่ต่างจาเรื่องภูมิผีปีศาจไปด้วยเช่นกัน

เพรังเชื่อกันว่าเป็นสิ่งที่ไม่สามารถพิสูจน์ ไม่ใช่ทุกคนจะเคยพบเห็น แม้ว่ามนุษย์ต่างดาวจะถูกนิยามว่าเป็นสิ่งมีชีวิตที่มาจากนอกโลก ซึ่งเกี่ยวข้องกับดาราศาสตร์ แต่ทางด้านของวิทยาศาสตร์เองไม่สามารถที่จะยืนยันเรื่องนี้ได้อย่างแน่ชัดว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นมีชีวิตอยู่จริง

แต่มีหลักฐานอยู่สิ่งหนึ่งที่จะสามารถอธิบายการมีอยู่จริงขิงมนุษย์ต่างดาวว่ามีอยู่จริงก็เป็นได้ นั้นก็คือ หลักฐานโบราณของชาวอียิปต์ ที่สำคัญเลยก็คือ ภาพวาดสลักขนกำแพง ถ้าหากใครได้มีโอกาสเดินทางไปดูด้วยตาของตัวเองก็อาจจะเห็น หรือใครไม่เคยเห็นก็ลองค้นหาดูในอินเตอร์ก็ได้

ซึ่งภาพวาดเหล่านั้นก็เหมือนกับภาพโดยทั่วไป เรามีความเชื่อที่ว่าภาพวาดเหล่านั้นทิ้งหลักฐานความเป็นอดีตเอาไว้ ทิ้งหลักฐานว่าสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นจริงในระยะเวลาที่ผ่านมาแล้ว อาจจะเป็นในสมัยโบราณยังไม่มีการคิดค้นตัวอักษรหรือภาษาขึ้นมาใช้ หลายๆอย่างจึงสื่อสารออกมาด้วยการภาพวาดนั้นเอง

แต่ที่น่าแปลกบนภาพวาดเหล่านั้นของชาวอียิปต์ก็คือ มนุษย์ที่มีรูปร่างแปลกประหลาด รวมไปถึงยานพาหนะที่อยู่เหนือชาวอียิปต์ เป็นหลักฐานที่สามารถตีความว่า นั้นคือมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมายังโลก จึงกลายเป็นเรื่องราวที่ชาวอียิปต์ในสมัยโบราณจารึกเอาไว้

หรืออีกอย่างที่หลายๆคนเข้าใจมนุษย์ต่างดาวคือ พระเจ้า นั้นก็เท่ากับว่าสิ่งที่ชาวศาสนาคริสต์นับถืออยู่นั้นเป็นพระเจ้า แต่แท้จริงแล้วคือมนุษย์ต่างดาวที่เดินทางมาอย่างสันติ และสอนต่างๆให้กับชาวอียิปต์สมัยนั้น ซึ่งภาพวาดถือว่าเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญเลยก็ว่าได้

และอีกหนึ่งอย่างที่สันนิฐานนั้นก็คือ พีระมิด ที่มีความสูงและฐานที่แข็งแรงเป็นอย่าง ในปัจจุบันหลายคนเชื่อว่ามนุษย์ในสมัยนั้นไม่น่าจะสร้างอะไรที่มั่นคงได้ขนาดนี้ หรือสามารถสร้างอะไรที่สูงใหญ่ได้ขนาดนี้ เพราะมันจะต้องอาศัยอุปกรณ์หรือเทคโนโลยีอะไรสักอย่างเข้ามาช่วย

และได้มีการวิเคราะห์โลกของมนุษย์ต่างดาวมีเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์ที่น่าจะก้าวไปไกลกว่าโลกหลายเท่านั้น จึงมีความเป็นไปได้เมื่อรวมกับหลักฐานบนภาพวาดเหล่านั้น ว่าสิ่งก่อสร้างของชาวอียิปต์สมัยนั้นเป็นสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวนั้นสร้างเอาไว้อย่างแน่นอน ถึงอย่างไรนั้นเรื่องมนุษย์ต่างดาวนั้นจะมีอยู่จริงไม่เราคงจะต้องรอดูกันอีกทีในอนาคต เผื่อว่าพวกเขาจะเดินทางมายังโลกเราอีกครั้ง

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88 สล็อต

มนุษย์ยุคกำเนิดกับภาษา

เคยคิดกันหรือไม่ว่าทำไมเราถึงต้องมีการสื่อสารกันโดยใช้ภาษา แล้วภาษามันเกิดขึ้นมาได้อย่างไร แล้วทำไมทั่วโลกถึงไม่ใช่ภาษาพูดแบบเดียวกันทั้งหมด ทำถึงจะต้องมีหลากหลายภาษา ซึ่งในบทความนี้เราจะมาไขข้อข้องใจตามทฤษฎีที่มีการวิจัยและข้อสันนิฐานต่างๆตามหลักการทางวิทยาศาสตร์

โดยจะเริ่มจากการย้อนไปตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษของเราเลยก็ว่าได้ ในความเป็นจริงแล้วมีการะบุเอาไว้ว่า แต่เดิมนั้นบรรพบุรุษมนุษย์ของเราได้มีการสื่อสารทางภาษาเหมือนกันทั้งหมด

แต่เพราะมีความต้องการในการขยายเผ่าพันธุ์ นอกจากการขยายเผ่าพันธุ์โดยวิธีการสืบพันธุ์แล้ว ยังต้องการที่จะขยายอาณานิคมให้เต็มไปด้วยเผ่าพันธุ์ของตนเอง ซึ่งถือว่ามีความคิดที่ทำให้เห็นได้ชัดว่ามนุษย์นั้นเริ่มมีวิวัฒนาการในทางความคิดเพิ่มมากขึ้น เมื่อมนุษย์ได้เริ่มการขยายเผ่าพันธุ์ออกไปทั่วทุกพื้นที่ของโลก ทำให้มนุษย์ได้ทราบว่าในแต่ละพื้นที่นั้นมีความแตกต่างกันเป็นอย่างมาก

ไม่เหมือนกับที่ที่เคยจากมา มีสิ่งที่แปลก สิ่งที่ไม่เคยเห็น เพราะฉะนั้นจึงเกิดเป็นศัพท์ใหม่ที่คิดค้นขึ้นมาเอง หากเปรียบเทียบก็อย่างเช่น สมมติว่าประเทศไทยเราไม่มีหิมะให้เห็น เพราะการไม่เห็นทำให้เราไม่รู้ว่ามันมีสิ่งนั้นอยู่บนโลกใบนี้ เมื่อเราเดินทางไปยังต่างแดน

เราเจอสิ่งที่ตกลงมาจากท้องฟ้าเป็นเกร็ดสีขาว เราจึงหาคำว่าแทนการเรียกของมันว่า สโนว์ (snow) เป็นเช่นนี้นั้นหมายถึงว่าได้เกิดรากศัพท์ใหม่ขึ้นมาหลากหลายคำ และเมื่อการบอกเล่าจากปากต่อปาก อาจจะทำให้ภาษามีการบิดเบือนไปตามพื้นที่ ซึ่งเป็นการทำให้มีการออกเสียงที่แตกต่างกันออกไปเรื่อยๆ

จึงเป็นที่มาของข้อสันนิฐานนี้ว่าทำไมเราจึงมีภาษาที่แตกต่างกันออกไป หรือจะสังเกตได้จากสัตว์ในยุคปัจจุบัน ต่อให้เป็นสัตว์ชนิดเดียวกัน สายพันธุ์เดียวกัน

แต่ถ้าหากว่ามันถูกเลี้ยงอาศัยอยู่กันคนละพื้นที่ การสื่อสารและประสาทความรับรู้ของมันก็แตกต่างกันไปตามพื้นที่ที่มันอาศัยอยู่ แต่จะมีอีกภาษาหนึ่งที่จะสามารถสื่อสารให้ทุกคนเข้าใจไปในทิศทางเดียวกัน แม้ว่าเราจะมีการพูดโดยใช้ภาษาที่แตกต่างกัน นั้นก็คือ ภาษามือ ถือว่าเป็นภาษาที่ไม่ต้องพูด จะทำการสื่อสารโดยใช้สัญลักษณ์ต่างๆแทน ซึ่งในภาษามือนี้จะให้ความเข้าใจในความหมายของคำเดียวกันในทั้งหมดของทุกๆภาษา ผู้ที่ต้องเรียนรู้ภาษามือส่วนใหญ่มักจะเป็นผู้พิการทางการได้ยิน และผู้พิการทางการพูดไม่ได้

แต่ในปัจจุบันคนทั่วไปก็เริ่มหันมาสนใจในการเรียนรู้ภาษามือมากขึ้น เพราะถ้าหากเข้าพูดภาษาต่างประเทศไม่ได้ อย่างน้อยภาษามือที่สามารถแทนคำศัพท์ของภาษาทั่วโลกได้ก็จะสามารถทำให้สื่อสารกันได้เช่นเดียวกัน

 

 

ได้รับการสนับสนุนโดย  rb88

ไวรัส-19ทำไมถึงเข้าไปเล่นงานที่ปลอดของมนุษย์?

ซึ่งในกรณีไวรัสสายพันใหม่2019หรือที่หลายคนเขาเรียกกันว่าโควิดนายทีนเป็นแบบมีเปลือกหุ้มและส่วนประกอบที่สำคัญที่ทำให้เจ้าไวรัสโคโรน่ามันได้มีความพิเศษกว่าอย่างอื่นกว่าไวรัสตัวอื่นมันคืออะไรเรามาดูกันอย่างแรกเลยตระกลูโคโรน่าไวรัสจะมีสิ่งที่เรียกว่าเจ้าสไปโปรตีนหรือที่เียกกันย่อๆว่าSโปรตีนS

ซึ่งน่าตาของไวรัสโคโรน่านั้นมันจะมีลักษณะเป็นวงกลมแล้วก็มีหนามล้อมรอบเหมือนกับมงกฎมันจึงได้ชื่อไวรัสโคโรน่าที่ชื่อว่ามงกฎส่วนตัวที่เหมือนมงกฎนั้นมันก็จะยื่นออกมาเป็นแหลมๆเราเรียกกันว่าสไปโปรตีน

ซึ่งมันได้ทำหน้าที่สำคัญมากๆเจ้าสไปโปรตีนนี้เปรียบเสมือนลูกกุญแจที่จะทำหน้าที่ไขประตูเข้าสู่เซลล์ร่างกายของมนุษย์ส่วนที่สองก็คือเจ้าตัวเปลือกหุ้มหรือว่าเอ็นเวลอปมันจะทำหน้าที่ปกป้องเจ้าตัวไวรัสเจ้าเอ็นเวลอปนี้ในขณะที่ไวรัสยังไม่เข้าเซลล์ของสิ่งมีชีวิตยิ่งมีเปลือกหุ้มแข็งเกร่งมากเท่าไหร่เชื้อก็จะสามารถที่จะอยู่ในสภาพแวดล้อมทางธรรมชาติได้นานขึ้น

เมื่อไวรัสเข้าสู้ร่างกายของมนุษย์แล้วมันเข้าไปในร่างกายของเราแล้วทำไมมันถึงเจาะจงไปเล่นงานปลอดของมนุษย์ซึ่งเป็นจุดยุทธศาสตร์และเป็นจุดสำคัญที่ให้ใครหลายคนนั้นเสียชีวิตต้องบอกว่าถ้าเจ้าสไปโปรตีนของเจ้าไวรัสเป็นเหมือนดั่งลูกกุญแจร่างกายคนเราก็จะต้องมีแม่กุญแจถูกหรือไม่แม่กุญแจก็คือตัวรับเชื้อไวรัสเข้าสู่ร่างกายโดยตรง

ซึ่งเจ้าแม่กุญแจนั้นได้อีกชื่อหนึ่งหรือจะเรียกให้ชัดเจนก็คือตัวรับหรือว่ารีซิสเตอร์ซึ่งตัวรับไวรัสของโคโรน่าที่จะพาไวรัสเข้าสู่ร่างกายของเราได้อย่างพอดีโดยตรงที่มีชื่อเรียกว่าGenetic Material 

นอกจากนี้เจ้าGenetic Materialนี้ดันมาอาศัยอยู่ในบริเวณปลอดของมนุษย์อย่างพอดีพูดง่ายๆเลยว่าไวรัส19มันมีตัวสไปโปรตีนมันมีกุญแจแต่ตัวแม่กุญแจของมนุษย์ดันไปอยู่ที่ปลอดส่วนใหญ่พอมันได้เข้าไปถึงปลอดถือว่ามันประสบความสำเร็จแล้วสปาคกันติดแล้วเชื้อไวรัสนั้นมันก็จะเข้าสู่ร่างกายของมนุษย์เราอย่างสมบูรณ์ทำให้เราติดเชื้อ

เมื่อไวรัสได้เข้าสู่เซลล์ในร่างกายมันก็จะต้องอยู่รอดด้วยการแพร่พันหรือว่าเพิ่มจำนวนนั่นมันเป็นสิ่งเดียวที่มันทำเป็นคือแพร่พันแพร่ไปเรื่อยๆมันก็จะปล่อยสารพันธุกรรมออกมาเพื่อจะเข้าไปควบคุมGenetic Material แล้วก็สร้างไวรัสตัวใหม่ขยายตัวมันออกมาเรื่อยๆ

ซึ่งไวรัสเมื่อมันได้มีจำนวนมากขึ้นในเซลล์มันก็จะทำให้เซลล์นั้นแตกออกทำให้กระจายไปทั่วปลอดและเชื้อที่ถูกสร้างขึ้นมาใหม่ก็จะไปจับเซลล์ตัวอื่นทำซ้ำในลักษณะแบบนี้ไปเรื่อยๆและมันก็จะถือว่าเป็นนการเพิ่มประสิทธิ์ภาพในตัวเองและกลายพันไปเรื่อยในหลายๆกรณี

 

สนับสนุนโดย  betbbthai

มนุษย์ต่างดาวพูดถึงเด็กผู้ชายที่จะลายล้างโลก

 

มนุษย์ต่างดาวมีอยู่จริงหรือไม่? แล้วคุณเชื่อเรื่องมนุษย์ต่างดาวหรือไม่? ต้องขอบอกก่อนเลยว่าเรื่องมนุษย์ต่างดาวนั้นยังไม่มีสิ่งที่มายืนยันได้ว่า มนุษย์ต่างดาวนั้นมีตัวตนอยู่จริงหรือไม่

เพราะในทางของวิทยาศาสตร์เองก็ไม่ได้ออกมาสรุปข้อมูลเท็จจริงแต่อย่างไหน สิ่งที่เราเรียกว่ามนุษย์ต่างดาว และ จานบิน นั้นเกิดมาจากจินตนาการที่ถูกสร้างขึ้นมาในรูปแบบนิยาหรือไม่ก็ภาพยนตร์แนววิทยาศาสตร์ รวมไปถึงแหล่งที่มาของภาพถ่ายจริงหรือคลิปวิดีโอที่มีสามารถกดถ่ายบันทึกภาพเหล่านั้นได้ทัน ก็คือภายถ่ายวัตถุที่มีรูปทรงแปลกประหลาดบินอยู่เหนือน่านฟ้าคล้ายกับเครื่องบิน

ที่ใครหลายๆคนตั้งชื่อให้มันว่า จานบิน พูดถึงคลิปวิดีโอแล้วจะเห็นแค่ว่าเป็นแค่วัตถุบางอย่างลอยอยู่ ด้วยยุคสมัยที่เปลี่ยนไปและเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ทำให้คลิปวิดีโอเหล่านั้นถูกมองว่าเป็นของปลอม สามารถที่จะทำการตัดต่อได้ แต่ได้มีคลิปวิดีโออยู่ชุดหนึ่งที่ไม่ผ่านการตัดต่อด้วยโปรแกรมใดๆ

เป็นการทึกคลิปวิดีโอด้วยฟิล์ม ซึ่งคลิปนี้ถูกแอบอ้างว่าเป็นคลิปวิดีโอการสอบปากคำมนุษย์ต่างดาวอย่างลับ ที่เกิดขึ้นเมื่อปีค.ศ.1964 โดยฐานลับสุดยอดของอเมริกา หรือ แอเรีย 51 ซึ่งในคลิปที่ว่านั้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบปากคำมนุษย์ต่างดาวที่จับกุมไว้ได้และสอบถามหลายคำถาม แต่ในบทความนี้เราจะมาพูดถึงชุดคำถามที่เกี่ยวกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งที่มนุษย์ต่างดาวให้การว่าจะเป็นผู้ทำลายโลก

ก่อนหน้านี้ได้ถามไปเรื่องการสูญพันธุ์ของมนุษย์และหนึ่งในนั้นก็มีปัจจัยเกี่ยวข้องว่า เด็กผู้ชายที่ถือกำเนิดขึ้นมานั้นมีส่วนที่จะทำให้มนุษย์สูญพันธุ์หรือทำให้มนุษย์ล้มตาย เจ้าหน้าที่ที่รู้อยากนั้นแล้วจึงถามต่อไปว่า แล้วในเวลานี้เด็กผู้ชายคนนั้นได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นมาหรือยัง

และคำตอบของมนุษย์ต่างดาวก็คือ เขาได้ถือกำเนิดเกิดขึ้นบนโลกนี้เรียบร้อย หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่ก็พยายามที่จะสอบถามว่า เด็กผู้ชายคนนั้นคือใคร ถ้าหากว่ารู้แล้วและทำการสังหารเด็กคนนั้นก่อนที่เขาจะโตขึ้น จะทำให้การสูญพันธุ์ของมนุษย์ให้ไปใช่หรือไม่

คำตอบของมนุษย์ต่างดาวก็คือ ไม่มีทางเป็นไปได้ที่คุณจะสามารถสังหารเด็กคนนั้นได้ เพราะอย่างไรแล้วมันจะเกิดขึ้น ถึงแม้ว่าจะสังหารเด็กคนนั้นได้ มนุษย์ก็สูญพันธุ์ด้วยปัจจัยอื่นอยู่เช่นเดิม จากสงคราม ภัยธรรมชาติ ขาดทรัพยากร ขาดอาหารและยา ถ้าหากจะถามว่ามนุษย์ต่างดาวนั้นทราบได้อย่างไรว่าจะไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ซึ่งต้นคลิปชุดนี้ได้ทำการสอบถามมนุษย์ต่างดาวพวกเขาเดินทางมาจากไหน และสิ่งที่มนุษย์ต่างดาวตอบก็คือ พวกเราคือพวกคุณ

 

สนับสนุนโดย  หวยออนไลน์ขั้นต่ำ 1 บาท