สาวใหญ่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเสียชีวิตกลางทุ่งนา

สาวใหญ่ถูกฆ่าอย่างโหดเหี้ยมเสียชีวิตกลางทุ่งนาสอบถามสามีผู้ตายบอกว่ามีคนมาย่องมาทำร้าย 3 คน

           ช่วงประมาณดึกของคืนวันที่ 22 เดือนพฤษภาคมปีพศ. 2563 ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจังหวัดสระแก้วได้รับแจ้งเหตุช่วงเวลาประมาณ 22.50 นว่ามีผู้พบศพหญิงวัยกลางคนคนหนึ่งเสียชีวิตอยู่กลางทุ่งนาและเมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจเดินทางไปถึงก็พบว่ามีชาวบ้านยืนมุงดูศพพร้อมทั้งมีสามีของผู้เสียชีวิตกำลังนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่สำหรับผู้ที่แจ้งเหตุนั้นเป็นนายสัมฤทธิ์ซึ่งมีหน้าที่เป็นผู้ช่วยกำนันด้วยในสำเร็จนั้น

ให้ข้อมูลทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าผู้เสียชีวิตนั้นชื่อว่านางอัมพรส่วนสามีของนางอัมพรที่กำลังประสบนั่งร้องไห้อยู่นั้นชื่อว่านายสมนึกโดยทั้งคู่เป็นสามีภรรยากันโดยนายสัมฤทธิ์บอกว่าตอนที่นายสัมฤทธิ์เดินทางมาถึงบริเวณทุ่งนานั้นเห็นว่านายสัมฤทธิ์กำลังนั่งกอดร่างผู้เสียชีวิตอยู่และร้องไห้ฟูมฟาย

เมื่อสอบถามไปว่าใครเป็นคนทำนายสัมฤทธิ์ก็บอกว่ามีคนร้ายบุกเข้ามา 3 คนแล้วทากันลมตรีนางอัมพรจนถึงแก่ความตายซึ่งระหว่างที่มีการพูดคุยกันนั้นนายสมนึกอยู่ในอาการของคนมึนเมาทำให้นายสัมฤทธิ์นั้นไม่เชื่อการพูดให้ปากคำของนายสมนึกเท่าไหร่จึงได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจให้มาตรวจสอบที่เกิดเหตุโดยชาวบ้านและผู้ช่วยกำนันให้ข้อมูลกับทางตำรวจว่าสามีภรรยาคู่นี้มักจะทะเลาะกันเป็นประจำทุกวัน

เนื่องจากว่าฝ่ายชายนั้นชอบหึงหวงฝ่ายหญิงซึ่งปกติแล้วก็จะมีการทำร้ายฝ่ายหญิงอยู่เรื่อยๆโดยเมื่อไหร่วันก่อนนั้นน้องสาวของนางอัมพรยังเคยมาบอกให้นายสัมฤทธิ์ฟังเลยว่านายสัมฤทธิ์กับนางอัมพรนั้นทะเลาะกันอีกแล้วและครั้งนี้ได้มีการนำยาฆ่าหญ้ากรอกใส่ปากนางอัมพรเพราะว่าจะให้พรไปด้วยแต่โชคยังดีที่ส่งโรงพยาบาลได้ทันซึ่งนางอัมพรเองก็เพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้ไม่กี่วันนี้เอง

หลังจากที่เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการสอบสวนนายสมนึกเขาก็ให้การรบกวนพูดจาไม่รู้เรื่องเพราะอยู่ในอาการเมาบอกแต่เพียงว่ามีคนร้าย 3 คนซึ่งเขาไม่เห็นหน้าวิ่งเข้ามาแล้วก็พากันรุมทำร้ายนางอัมพรด้วยการใช้ไม้ตีหลังจากนั้นก็วิ่งหนีไปจากการดูศพเบื้องต้นพบว่าร่างกายของนางอัมพรนั้นถูกตีด้วยของแข็งโดยมีแผลทั้งที่หน้าผากที่หัวกระโหลกยางแตกมือขวาฉีกขาดและช้ำบวมแขนยังมีแผลข้างหลังอีกหลายแผล

ซึ่งบริเวณที่พบศพนั้นสภาพศพของนางอัมพรใส่แต่เสื้อและกางเกงในและยังมีอาวุธที่น่าจะเป็นอาวุธที่ก่อเหตุนางอัมพรซึ่งเป็นท่อนไม้ไผ่ที่มีความยาวอยู่ที่ 2 ฟุตตกอยู่ข้างศพและมีเลือดเต็มไปหมดและข้างๆกันนั้นก็ยังมีถุงถ่านที่มีการเผาเสร็จเรียบร้อยแล้ววางอยู่โดยนางอัมพรและนายสมนึกนั้น

มีอาชีพเผาถ่านซึ่งปกติแล้วจะมีอาชีพทำนาเนื่องจากตอนนี้ แล้งไม่มีน้ำทำให้ทั้งคู่ต้องมายึดอาชีพเผาถ่านแทนอย่างไรก็ดีเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการนำตัวนายสมนึกไปสถานีตำรวจก็รอให้สร่างเมาแล้วจะทำการสอบปากคำต่อไป

 

สนับสนุนเรื่องราวโดย  bk8